แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย คลิปหนุ่มฟาดหมวกกันน็อกชายสูงวัย

อาชญากรรม
28 พ.ค. 63
07:04
1,235
Logo Thai PBS
แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย คลิปหนุ่มฟาดหมวกกันน็อกชายสูงวัย
สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่วิดีโอหนุ่มใช้หมวกกันน็อกทำร้ายชายสูงวัยกลางถนนย่านบางพฤกษ์ เบื้องต้น ตำรวจสอบสวนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายหนุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในส่วนคดีทางจารจร

วานนี้ (27 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากวิดีโอเหตุการณ์ชายคนหนึ่งใช้หมวกกันน็อกฟาดชายสูงวัยกลางถนน บริเวณแยกบางพฤกษ์ ย่านเพชรเกษม ตำรวจ ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า คู่กรณียังให้การขัดแย้งกัน ซึ่งฝ่ายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ อ้างว่า มีความขัดแย้งกันมาก่อนหน้าถึงจุดเกิดเหตุ โดยรถแท็กซี่บีบแตรและมีการขับขี่เบียดรถจักรยานยนต์ของตัวเองและกระแทกโดนแฟนสาวที่นั่งซ้อนท้าย จึงพยายามเรียกให้จอดพูดคุยกัน แต่คนขับแท็กซี่ไม่จอด

ตัวเองจึงจอดให้แฟนสาวยืนรอข้างทาง จากนั้นขับขี่ตามรถแท็กซี่ จนถึงแยกบางพฤกษ์ จุดเกิดเหตุ ได้จอดรถลงไปเรียกคนขับแท็กซี่ ให้ออกมาพูดคุยกัน แต่ยอมรับเพราะเกิดบันดาลโทสะ จึงทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกัน พร้อมอ้างว่า คนขับรถแท็กซี่มีแท่งเหล็กแหลมเป็นอาวุธ จึงยื้อแย่งโยนทิ้งไป ซึ่งหลังจบเหตุวิวาทตัวเองไม่ได้หลบหนี แต่ขับรถจักรยานยนต์กลับไปรับแฟนสาว จากนั้นเข้าแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม โดยหลังให้ปากคำตำรวจก็พาเข้าชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำให้การ

ส่วนคนขับรถแท็กซี่ หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สน.เพชรเกษมเช่นกัน โดยให้การอ้างว่า ขับขี่รถมาปกติแต่รถจักรยานยนต์ขับมาปาดหน้าทำให้ตัวเองชนรถจักรยานยนต์ของคู่กรณี จากนั้นจึงได้ลงจากรถ เพื่อพูดคุยแต่ถูกคนขับรถจักรยานยนต์ทำร้ายด้วยหมวกกันน็อกรวมถึงใช้ไขควงทำร้ายก่อนหลบหนีไป จึงได้เข้าแจ้งความทันที ก่อนที่ตำรวจจะส่งตัวไปรักษาบาดแผล


ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ระบุว่า คดีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีทำร้ายร่างกายและคดีทางจราจร ซึ่งในส่วนของคดีทำร้ายร่างกายนั้น ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะทำการแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” และในส่วนของคดีทางจารจร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กล้องวงจรปิดและพยานบุคคล เป็นต้น เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา เมื่อเกิดเหตุควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าใช้กำลังตัดสิน เพราะไม่ว่าการกระทำใดการกระทำหนึ่งอาจส่งผลเสียแก่ตนหรือผู้อื่นได้ โดยนำหลักฐานด้วยการถ่ายภาพทะเบียนรถ ตำหนิรูปประพรรณ สี ยี่ห้อ รุ่น หรือหลักฐานอื่น ๆ มาแจ้งที่สถานีตำรวจพื้นที่รับผิดชอบ หรือแจ้งสายด่วน 191 ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง