วันนี้ (29 พ.ค.2563) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่าได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการรถร่วมโดยสารเอกชน เพื่อรวบรวมความคิดเห็นในการให้บริการ หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการ ระยะที่ 3 ซึ่งภาพรวมผู้ประกอบการได้แสดงความประสงค์ที่จะกลับมาทยอยเดินรถมากขึ้น โดยในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งผู้ประกอบการให้ทราบว่า การอนุญาตให้บริการหลังจากนี้จะยังมีลักษณะค่อย ๆ ผ่อนคลาย เนื่องจากขณะนี้ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฃ ประกาศฉบับที่ 5 ข้อที่ 5 ที่ให้ประชาชนชะลอ หรืองดการเดินทางข้ามจังหวัดอยู่
สำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะรถร่วมบริการที่มีความประสงค์จะเริ่มทยอยเปิดเดินรถนั้น ให้แจ้งความประสงค์ให้กับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ในฐานะผู้ให้สัมปทานเส้นทาง รวมทั้งนำรายงานให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคม การขนส่งทั่วราชอาณาจักร เพื่อทำการอนุญาตเดินรถเป็นกรณีไป
ผู้ประกอบการชงติดฉากกั้นแทนเว้นที่นั่ง
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ผู้ประกอบการเอกชน เสนอที่จะปรับลดความเข้มงวดของมาตรการ Social Distancing บนรถโดยสาร โดยให้ผู้เดินทางสามารถนั่งโดยสารได้ทุกเบาะ โดยผู้ประกอบการได้เสนอที่จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ ฉากกั้นระหว่างที่นั่ง เพื่อให้รถโดยสารแต่ละคันสามารถรองรับผู้เดินทางได้มากขึ้น และผู้ประกอบการมีความคุ้มทุนในการเดินรถให้บริการ หลังจากมาตรการเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องหยุดเดินรถไปเอง รวมทั้งประเด็นการผ่อนคลายเรื่องของการเดินรถที่อยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น. ที่ผู้ประกอบการขอผ่อนคลายให้สามารถเดินรถได้ แต่มีเงื่อนไขไม่ให้แวะรับส่งผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว โดยให้รถสามารถรับส่งผู้โดยสารได้ตามจุดและสถานีต่าง ๆ นอกช่วงเวลาเคอร์ฟิวเท่านั้น ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะรวบรวมข้อเสนอทั้งกระทรวงคมนาคม และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. (ชุดเล็ก) เพื่อพิจารณาต่อไปด้วย
รฟท.ยังไม่ตัดสินใจกลับมาเดินรถสายยาว
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า ในส่วนของการรถไฟฯ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 แต่การรถไฟจะต้องติดตามรายละเอียดของมาตรการต่อไป โดยเฉพาะมาตรการควบคุมพื้นที่ของแต่ละจังหวัด รวมทั้งการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัดไว้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อผู้โดยสารเดินทางไปถึงปลายทางและไม่สามารถเดินทางต่อได้ หรือออกจากสถานีไม่ได้ ดังนั้นการรถไฟฯ จะขอติดตามรายละเอียดของมาตรการเหล่านี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนพิจารณาว่าจะกลับมาเดินรถสายยาวเพิ่มขึ้นหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริการเดินรถโดยสารของ บขส. ปัจจุบันนี้เดินรถบริการอยู่ประมาณร้อยละ 15 ของจำนวนเที่ยวรถปกติ หรือวันละกว่า 1,300 เที่ยว และมีผู้โดยสารใช้บริการวันละ 8,000 คน โดย บขส.ประเมินว่าเมื่อรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 แล้ว บขส.จะกลับมาเดินรถได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 ของเที่ยวรถปกติ