ชายอายุ 80 ปี ชาว "นราธิวาส"ป่วย COVID-19 เสียชีวิตแล้ว

สังคม
1 มิ.ย. 63
16:52
1,570
Logo Thai PBS
 ชายอายุ 80 ปี ชาว "นราธิวาส"ป่วย COVID-19 เสียชีวิตแล้ว
ศูนย์ EOC ระบุชายชาวนราธิวาสผู้ติดเชื้อ COVID-19 อายุ 80 ปี เสียชีวิตแล้ว ถือเป็นรายที่ 2 ของจังหวัด เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เดินทางกลับจากร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย ผู้ว่าฯ นราธิวาส คุมเข้ม 11 นักศึกษาที่เดินทางกลับจากซาอุดิอาระเบีย และยังอยู่ในสถานกักตัว

วันนี้ (1 มิ.ย.2563) ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน EOC จ.นราธิวาส รายงานว่าชายอายุ 80 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ผู้ป่วยรายที่ 36 จากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้เสียชีวิตแล้ว โดยชายคนนี้ เป็นหนึ่งในผู้ที่เดินทางกลับจากไปร่วมชุมนุมเผยแพร่ศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย

โดยผู้ป่วยรายที่ 36 ของประเทศไทยและเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ก่อนส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และเสียชีวิตเช้าวันนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ของ จ.นราธิวาส รวม 2 คน  และเป็นคนที่ 58 ของประเทศ แต่ยังไม่ได้ส่งรายงานต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) 

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิต คือรายที่ 37,38 ,39 และรายที่ 40 ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตรายล่าสุดยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามคือโรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ จ.นราธิวาส ทั้งนี้ผู้ป่วยรายที่ 38 ซึ่งเป็นสามีของลูกสาวผู้เสียชีวิต ล่าสุดได้รับการยืนยันจากศูนย์ EOC จ.นราธิวาสว่า ตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 ส่วนรายที่ 37,39 และ 40 ซึ่งเป็นลูกสาว หลานและคนเลี้ยงหลานของผู้เสียชีวิต อาการโดยรวมไม่หนักมาก

อ่านข่าวเพิ่ม ศบค.ชี้กลุ่มดาวะห์จากอินโดนีเซียป่วยยกลำ 61 คน

ภาพ:สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส

ภาพ:สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส

ภาพ:สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส

กำชับ 13 อำเภอคุมเข้มหลังปลดล็อกระยะ 3 

ทางด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ถูกกักตัวที่ศูนย์กักกัน (Local Quarantine) ภายในสนามกีฬาการกีฬาและการท่องเที่ยว จ.นราธิวาส เข้มงวดกับนักศึกษา 11 คนที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และถูกกักตัวอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าว เพื่อป้องกันการระบาด

นอกจากนี้หลังจากรัฐบาลให้ทั่วประเทศปลดล็อกระยะที่ 3 ทั้งการเดินทางเข้า-ออกในจังหวัดต่างๆได้ตามปกติโดยไม่ต้องทำหนังสือ รวมทั้งการปลดล็อกกิจการต่างๆ จึงขอให้ทั้ง 13 อำเภอรวมทั้งหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ควบคุมดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งยังต้องสวมหน้ากากอนามัย และใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือกรณีเข้าไปใช้บริการตามร้านค้าสถานประกอบการต่างๆอย่างเคร่งครัด หากทุกคนไม่ปฏิบัติตามวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) เชื่อว่าการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 จะกลับมาและสถานการณ์จะรุนแรงกว่าเดิม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป่วย COVID-19 แค่ 1 คน เผยรอบ 2 สัปดาห์ "ฟรีแลนซ์" อาชีพเสี่ยง

ข่าวดี! เล็งชดเชยวันหยุดสงกรานต์ช่วงก.ค.นี้

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง