วันนี้ (16 มิ.ย.2563) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ต่ออายุมาตรการลดราคาขายปลีกแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือน ขนาดถัง 15 กิโลกรัม ลง 45 บาทต่อถัง หรือ อยู่ที่ 318 บาทต่อถัง ต่อไปอีก 3 เดือน จากเดิมจะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ขยายไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2563 เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนละ 248 ล้านบาทเข้าไปอุดหนุน
นอกจากนี้ยังมีมติต่ออายุมาตรการปรับลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) สำหรับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถ ตุ๊กตุ๊ก รถตู้ร่วม ขสมก. รถโดยสาร มินิบัส สองแถว รถโดยสารรถตู้ร่วม บขส. ราคาส่วนลด 3 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม ต่ออีก 1 เดือน จากเดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ เป็นเดือน ก.ค.2563 เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการไม่ให้ขึ้นค่าโดยสาร โดย ปตท. จะเป็นผู้ดูแลอุดหนุนส่วนต่างราคา ซึ่งจะได้นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ปตท. เพื่อจะได้เห็นชอบต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ ให้เริ่มใช้ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นฯ ทุกชนิดปรับลดลงได้เฉลี่ย 50 สตางค์ต่อลิตร และจะสะท้อนไปยังราคาขายปลีกซึ่งมติดังกล่าวถือว่าเป็นไปตามมติ กบง.เดิมเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้พิจารณาไว้แต่เนื่องจากที่ผ่านมาติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จึงทำให้ยังไม่ทันได้เริ่มใช้หลักเกณฑ์นี้ ขณะที่วันนี้กรมธุรกิจพลังงานจะดำเนินการออกประกาศที่รองรับสูตรคำนวณราคาใหม่ ก่อนมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้