เกณฑ์รับต่างด้าว "ขายของหน้าร้าน-กรรมกร" เริ่มใช้ 20 มิ.ย.

สังคม
19 มิ.ย. 63
08:54
12,880
Logo Thai PBS
เกณฑ์รับต่างด้าว "ขายของหน้าร้าน-กรรมกร" เริ่มใช้ 20 มิ.ย.
กรมการจัดหางาน ออกประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง เงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรและงานขายของ หน้าร้านกับนายจ้าง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.63 เป็นต้นไป

วันนี้ (19 มิ.ย.2563) นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เนื่องจากตามข้อ 5 วรรคสอง ของประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 กำหนดให้อธิบดีกรมการจัดหางานออกประกาศกำหนดเงื่อนไขการรับคนต่างด้าว เข้าทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้าน ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร

โดยมีเงื่อนไข ให้คนต่างด้าวทำได้ ก็เฉพาะงานที่มีนายจ้าง และได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึความเข้าใจที่รัฐบาลไทย ทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ (MOU) ตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงแรงงาน กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ

โดยที่ก่อนออกประกาศกำหนดเงื่อนไข การรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้าน กรมการจัดหางานได้รับฟังความคิดเห็นทั้งจากหน่วยงานราชการ และหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องแล้ว

กรมการจัดหางานจึงออกประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง เงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทางานกรรมกรและงานขายของ หน้าร้านกับนายจ้าง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.2563 เป็นต้นไป เพื่อกำหนดเงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้าน

ซึ่งงานขายของหน้าร้าน กำหนดคุณสมบัตินายจ้าง ที่จะรับคนต่างด้าวเข้าทำงานจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ หรือในกรณีร้านค้าที่ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ให้นายจ้างแสดงใบอนุญาต หนังสือรับรอง หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ เพื่อประกอบพาณิชยกิจ

และนายจ้างต้องรับคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านตามหลักสัดส่วน สูงสุดไม่เกิน 20 คน ซึ่งพิจารณาจากหลักเกณฑ์การชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลในรอบปีภาษีที่ผ่านมา ที่กำหนดสัดส่วนการรับคนต่างด้าวได้ตั้งแต่ 1 - 10 คน ตามมูลค่าภาษีเงินได้ที่ได้ชำระแล้ว

กรณีที่รอบปีภาษีที่ผ่านมาได้ยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้และได้รับยกเว้นการเรียกเก็บภาษีเงินได้ สามารถรับคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านได้ 1 คน กรณีที่ชำระภาษีเงินได้ตั้งแต่ 1-50,000 บาท สามารถรับคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านได้ 3 คน

ในกรณีที่ชำระภาษีเงินได้เกินกว่า 50,000 บาท ทุก ๆ 50,000 บาท จ้างคนต่างด้าวทำงานขายของหน้าร้านเพิ่มได้ 1 คน ทั้งนี้ ไม่เกิน 10 คน และหากต้องการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานเกินกว่า 10 คน ให้นำหลักเกณฑ์การจ้างงานมาใช้พิจารณา คือ นายจ้างที่มีลูกจ้างคนไทย 30 คน สามารถรับคนต่างด้าวเข้าทำงานเพิ่ม ได้ 1 คน และถ้ามีการจ้างคนไทยเพิ่มทุก ๆ 10 คน ให้รับคนต่างด้าวได้อีก 1 คน ซึ่งรวมทั้ง 2 หลักเกณฑ์แล้วนายจ้าง จะสามารถรับคนต่างเข้าทำงานขายของหน้าร้านได้ไม่เกิน 20 คน

ส่วนการรับคนต่างด้าวเข้าทำงานกรรมกรนั้น ไม่ได้กำหนดเรื่องสัดส่วนจำนวนคนต่างด้าว ที่จะรับคนต่างด้าวเข้าทำงานไว้ แต่คนต่างด้าวจะมีสิทธิทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้านได้ ก็ต่อเมื่อในใบอนุญาตทำงานระบุสิทธิว่า สามารถทำงานกรรมกรหรืองานขายของหน้าร้านได้เท่านั้น โดยในงานขายของหน้าร้านต้องระบุนายจ้างด้วย

ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว คนต่างด้าวและนายจ้างจะมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยคนต่างด้าวจะมีความผิดตามมาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 - 50,000 บาท และเมื่อได้ชำระค่าปรับแล้ว ให้ส่งคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ส่วนนายจ้างจะมีความผิดตามมาตรา 9

สำหรับการกระทำความผิดครั้งแรก ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน และหากเป็นการกระทำความผิดครั้งที่ 2 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 - 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามผู้นั้นจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปีนับแต่วันที่ศาล มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ

สาหรับกรณีที่ใบอนุญาตทำงาน ยังไม่ได้ระบุสิทธิว่า สามารถทำงานกรรมกร หรืองานขายของหน้าร้านได้ นายจ้าง สถานประกอบการสามารถยื่นคำขอเปลี่ยนหรือเพิ่มประเภทงานกรรมกร หรืองานขายของหน้าร้านในใบอนุญาตทำงาน ได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ที่เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง