ร้อง ตร.เร่งรัดคดีเต็นท์รถฉ้อโกง สูญเงินกว่า 22 ล้าน

อาชญากรรม
19 มิ.ย. 63
18:00
816
Logo Thai PBS
ร้อง ตร.เร่งรัดคดีเต็นท์รถฉ้อโกง สูญเงินกว่า 22 ล้าน
ผู้เสียหายจากหลายจังหวัด เรียกร้องให้ตำรวจ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เร่งรัดคดีเต็นท์รถมือ 2 ฉ้อโกงกว่า 22 ล้านบาท พร้อมมอบกระเช้าให้กำลังใจตำรวจที่ช่วยเหลือทำคดี ขณะที่ตำรวจนัดนำสำนวนและผู้ต้องหา 4 คน ส่งอัยการวันนี้ (19 มิ.ย.) แต่ผู้ต้องหาขอเลื่อนอ้างป่วย

วันนี้ (19 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายจากหลายจังหวัดทั้ง จ.บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ และ จ.นครราชสีมา ที่ถูกเต็นท์รถมือ 2 แห่งหนึ่งใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ฉ้อโกงในการซื้อขายเปลี่ยนรถทั้งรายเก่าและรายใหม่กว่า 20 คน จากจำนวนผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 130 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 22 ล้านบาท ได้รวมตัวกันถือป้ายที่มีข้อความว่า "พวกเรากลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน คดีความไม่คืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม จากคดีเต็นท์รถรายใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์" ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรสตึก

 

 

ขณะเดียวกัน ได้มอบกระเช้าเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย หลังจากเมื่อเดือน ก.พ.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมเต็นท์รถดังกล่าว โดยได้ทำการอายัดรถกว่า 200 คัน จับกุมผู้ต้องหา 4 คน ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และอดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น ได้เดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมด้วยตัวเองด้วย

ตัวแทนผู้เสียหายไปยื่นหนังสือที่ จ.นครราชสีมา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า และยังมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางคนก็ถูกทางเต็นท์รถฟ้องกลับทั้งที่ตัวเองเป็นผู้เสียหาย จึงได้พากันมาเร่งรัดติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย ทั้งนี้ ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มดังกล่าวก็จะพากันเดินทางไปยื่นหนังสือที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา เพื่อให้ช่วยเหลือในอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งมีผู้เสียหายบางคนได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

 

 

สำหรับพฤติการณ์ คือเจ้าของรถที่ยังติดไฟแนนซ์นำรถมาขาย ก็เสนอราคาให้สูง เมื่อผู้เสียหายตกลงขาย เต็นท์ก็รับปากจะผ่อนต่อให้ แต่กลับนำรถไปขายต่อโดยที่ไม่ส่งไฟแนนซ์ให้ตามที่รับปาก ทำให้ชาวบ้านต้องเสียทั้งรถ และต้องมาผ่อนกระดาษเปล่า รวมทั้งยังถูกฟ้องร้องคดีแพ่งอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง