วันนี้ ( 23 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปราม วันนี้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการวางแผนหลบหนีจากที่คุมขัง ของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ โดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยอมรับว่า ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 คน มาให้ปากคำประกอบด้วย ทนายความที่ช่วยประสานเรื่องการประกันตัวนายโจ อดีต ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ ที่นายโจติดต่อไปขอความช่วยเหลือ แต่ได้รับการปฏิเสธ และนายวรภัทร ตั้งภากรณ์ (บอส) บุตรชายของ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งนายท็อป 1 ในอดีตนักโทษ ให้การซัดทอดว่า ได้เข้าไปพบ พ.ต.ท.บรรยิน ในช่วงถูกคุมขัง เพราะเป็นเพื่อนกับลูกชาย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่า พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนการหลบหนีจากเรือนจำจริง โดยอ้างอิงจากประวัติและพฤติกรรม ที่เคยก่อเหตุอุกฉกรรจ์หลายคดี และการข่มขู่คุกคาม และใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้กำชับไปยังกรมราชทัณฑ์ ให้สอดส่องพฤติกรรมของผู้ต้องขังให้ดีที่สุด หลัง พ.ต.ท.บรรยิน ออกมาเปิดเผยในการเบิกความต่อศาลว่า ถูกกักขังที่เข้าข่ายถูกทารุณกรรม ส่วนแผนการชิงตัวจากการคุมขัง เชื่อว่าทำไม่ได้ เพราะถ้าทำได้ ก็แสดงว่าบกพร่อง พร้อมแสดงความเห็นว่า เรื่องอย่างนี้มีแต่ในภาพยนตร์
ด้าน พ.ต.อ.ณรัช เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันเรือนจำมีมาตรการดูแลผู้ต้องขังอย่างดี และในกรณีของ พ.ต.ท.บรรยิน แม้ในขณะนี้ถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง แต่จากพฤติกรรมและการป้องกันการวางแผนหลบหนี กรมราชทัณฑ์ สามารถปรับเปลี่ยนที่ควบคุมได้