วันนี้ (1 ก.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 คน อยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ สะสม 3,173 คน หายป่วยเพิ่ม 3 คน รวมรักษาหายแล้ว 3,059 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 56 คน ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม สะสม 58 คน
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คน เป็นชายไทยอายุ 47 ปี และ 48 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางกลับมาจากคูเวต ถึงไทยเมื่อ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีอาการไอและไข้จากนั้นตรวจพบเชื้อ COVID-19
วันนี้เป็นวันแรกของชีวิตปกติวิถีใหม่ แต่กิจการกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายระยะที่ 5 เป็นส่วนที่มีความเสี่ยงสูง ขอให้ยังสวมหน้ากาก
โฆษก ศบค. กล่าวว่า คนไทยที่เดินทางมาจากคูเวต ซึ่งอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้มีอัตราการติดเชื้อสูงสุด ทั้งหมด 293 คน ติดเชื้อ 36 คน หรือ 15.25% รองลงมาซาอุดีอาระเบีย และปากีสถาน
ขณะที่การแพร่ระบาด COVID-19 ทั่วโลก ติดเชื้อสะสม 10,585,152 ล้านคน เสียชีวิต 513,913 คน อาการหนัก 57,788 คน หายแล้ว 5,795,101 คน โดยสหรัฐอเมริกาติดเชื้อมากที่สุด 2,727,853 คน บราซิล 1,408,485 คน รัสเซีย 647,849 คน
ไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ได้รับคัดเลือกให้เดินทางเข้าประเทศในสหภาพยุโรปได้ โดยใช้เกณฑ์จำนวนผู้ป่วยและการควบคุมโรค
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ได้มีการประชุมของ สธ. และนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับความพร้อมของเตียงรองรับผู้ป่วยโดยไอซียูใน กทม. 106 เตียง ทั่วประเทศ 465 เตียง ส่วน Hospitel กทม. 568 เตียง ทั่วประเทศ 9,781 เตียง ยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งเตียง เวชภัณฑ์ และยา
มาตรการรองรับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งมีหลายกลุ่ม หลักการคือต้องสงสัยก่อนว่าอาจเป็นพาหะนำเชื้อเข้ามา จึงต้องแยกกักผู้ป่วย, กักกัน (Quarantine), และคุมไว้สังเกต
ขณะที่มาตรการใหม่ตามประกาศในข้อกำหนดฉบับที่ 12 แบ่งกลุ่มอีก 11 ประเภท ซึ่งกลุ่มที่เดินทางเข้าไทยมาเป็นโรงเรียน ทั้งครู นักเรียนต่างชาติ ผู้บริหาร จำนวนเป็นสิบหรือร้อยคน ที่มีหอพัก หรือ รพ.ประจำมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชนนั้น ศบค.อนุญาตให้ใช้ Organizational Quarantine แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
กลุ่ม Hospital Quarantine ที่เข้ามาทำศัลยกรรมเสริมความงาม ย้ำว่าไม่ใช่กลุ่มป่วย COVID-19 เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จต้องอยู่ รพ.จนครบ 14 วัน
มาตรการคุมไว้สังเกต คือ ไม่ต้องนอนที่โรงแรม หรือโรงพยาบาล อาจเป็นนักธุรกิจมาในระยะสั้น ๆ 2-3 วัน ต้องมีระบบตรวจสอบเข้มงวดตั้งแต่ก่อนมา ระหว่างมา และก่อนกลับ โดยชี้แจงรายละเอียดการเดินทางและใช้รถส่วนตัวเท่านั้น มีบุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่รับอบรมแล้วประกบ เพื่อลดความเสี่ยงของคนไทย
ศบค. หน่วยงานต่าง ๆ คิดกันอย่างละเอียดในการติดตามทุกคนที่เข้ามาไทย เพื่อรักษาสถานภาพการเป็น 0 ในประเทศ เพื่อความปลอดภัยพี่น้องประชาชน 60 ล้านคน
การผ่อนคลายระยะที่ 5 ซึ่งเป็นกิจการสีแดงนั้น ศบค.ให้ความสำคัญโดยตลอด ซึ่งมีแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ฉบับที่ 5 ขอให้ผู้ประกอบการทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ ดาวน์โหลดข้อมูลและปฏิบัติตามทั้งมาตรการหลักและมาตรการเสริม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และต้องมีแอปฯ ผู้พิทักษ์ไทยชนะ ป้องกันการแอบอ้าง