วันนี้ (1 ก.ค.2563) ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ใช้ตำแหน่ง ส.ส. แทรกแซงการทำหน้าที่ของตำรวจ ระหว่างลงพื้นที่ติดตามกรณีนายทุนรุกที่ จ.ภูเก็ต โดยมีมติ 7 ต่อ 1 เห็นว่าการแสดงพฤติกรรมและใช้วาจาข่มขู่ตำรวจและผู้บริหารเทศบาลกระรน เป็นเพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสภ.กระรน เท่านั้น
ส่วนการพูดกับผู้บริหารเทศบาลตำบลกระรน ก็เป็นเพียงการสอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ดังนั้นจึงเห็นว่านายสิระไม่ได้ใช้สถานะความเป็น ส.ส. แทรกแซงเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ตามบทบัญญัติ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 185 (1) ของรัฐธรรมนูญ
ส่วนใครที่เห็นว่าพฤติกรรมของ นายสิระ ไม่เหมาะสมกับการเป็น ส.ส. ก็สามารถดำเนินการตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส.และกรรมาธิการ และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์กรอิสระ ที่บังคับใช้กับ ส.ส.ด้วย
นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง กรณีกล่าวหาภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถือหุ้นตลาดนัดคลองเตย ซึ่งเป็นเป็นคู่สัญญารัฐ โดยใช้บุคคลอื่นหรือนอมินีเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งศาลเห็นว่าการทำสัญญาดังกล่าวไม่เข้าข่ายการทำสัญญาผูกขาดตัดตอน ตามมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ จนเป็นเหตุให้พ้นสมาชิกภาพตาม มาตรา 101 (7) ของรัฐธรรมนูญ