วันนี้(1 ก.ค.2563) ทีมข่าวร้องทุกข์ลงป้ายนี้ เป็นสื่อกลางประสานงานไปยังสำนักงานเขตบางซื่อ กทม. และกลุ่มจิตอาสา เข้าช่วยเหลือชาวชุมชนตรอกปูนขาว มอบถุงยังชีพและอาหาร หลังชาวชุมชนแห่งนี้ไม่เคยได้รับถุงยังชีพ การช่วยเหลือจากภาครัฐหรือเอกชน ในช่วงการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 เนื่องจากเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.
ภาคเอกชนและชาวบ้านจิตอาสากลุ่มไมตรีจิต 888 เดินทางเข้าไปยังชุมชนตรอกปูนขาว ที่ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พร้อมช่วยกันขนชุดถุงยังชีพที่บรรจุของใช้ที่จำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ไก่ พร้อมข้าวกล่อง เพื่อเดินแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่แห่งนี้ทีละหลังคาเรือนตลอดทั้งชุมชน
ก่อนหน้านี้ทีมข่าวร้องทุกข์ลงป้ายนี้ได้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยสำรวจชุมชนตรอกปูนขาว เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ และผลกระทบที่จะได้รับเนื่องจากการรถไฟฯ มีแผนที่จะขอคืนพื้นที่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และรองรับขยายตัวของสถานีรถไฟกลางบางซื่อในอนาคต ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในชุมชน เป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับการรถไฟฯ ส่วนหนึ่งยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ได้อาศัยบ้านพักสวัสดิการอยู่ในพื้นที่ แต่อีกส่วนเข้ามาอยู่อาศัยในฐานะผู้บุกรุกพื้นที่ของการรถไฟฯ ไม่มีทะเบียนบ้าน
ขณะลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นชุมชน ที่ไม่เคยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาในช่วงการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งคนพิการ คนแก่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนหลายคน ที่มีมามอบก็มอบในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง จึงอยากให้มีหน่วยงานลงพื้นที่มาช่วยเหลือบ้าง
หลังจากนั้นทีมข่าวได้ประสานงานไปยังนางทิพวรรณ์ เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ เพื่อสอบถามแนวทางการช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งผู้อำนวยการเขตระบุว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเขตได้เข้าไปสำรวจแล้วและอยู่ระหว่างลำดับการประสานจิตอาสา ที่มาแสดงความประสงค์ช่วยเหลือไว้ เข้าไปมอบสิ่งของช่วยเหลือ สำหรับชาวบ้านที่ชุมชนแห่งนี้ เมื่อได้รับแจกสิ่งของที่พวกเขาไม่เคยได้รับการช่วยเหลือมาก่อน ต่างรู้สึกดีใจและขอขอบคุณผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กลุ่มจิตอาสา และร้องทุกข์ลงป้ายนี้
สำหรับชุมชนตรอกปูนขาว มีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่กว่า 140 คน มีบ้านพักอาศัย 43 หลังเรือน ขณะนี้ชาวบ้านหวังว่าการรถไฟฯ จะทบทวนแผนขอคืนพื้นที่ เนื่องจากหากมีการขอคืนพื้นที่ชาวบ้านก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนเช่นกัน
