วันที่ (3 ก.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ไทยพบผู้ป่วย COVID-19 เพิ่ม 1 คน ใน State Quanrantine ไม่มีผู้ป่วยในประเทศเป็นวันที่ 39 รวมสะสมป่วย 3,180 คน หายป่วยเพิ่ม 7 คน รวม 3,066 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 56 คน เสียชีวิตคงที่ 58 คน
สำหรับผู้ป่วยใหม่เป็นหญิง อายุ 24 ปี เดินทางมาจากบาห์เรน เข้าพักที่ State Quarantine จ.ชลบุรี ต่อมามีอาการเจ็บคอ และถ่ายเหลว จึงตรวจหาเชื้อในวันที่ 1 ก.ค.และพบติดเชื้อ
โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดต่อ โดยโรคมือ เท้า ปาก สถิติรายสัปดาห์ ปี 2563 ตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี มีแนวโน้มลดลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่เพิ่มสูงเริ่มเกือบ 1,000 คน และเพิ่มสูงช่วงกลางปีกว่า 4,000 คน
โรคไข้หวัดใหญ่ปีก่อนต้นปีสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ปีนี้ ช่วงต้นปีติดเชื้อ 52,608 คน แล้วลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนถึงเดือน มิ.ย.เหลือไม่ถึง 1,000 คน ซึ่งเกิดจากการรณรงค์สวมหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัย ปีนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค.-27 มิ.ย. พบอัตราผู้ป่วยสูงสุดคือ เด็กอายุ 0-4 ปี และ 5-14 ปี ป่วยไข้หวัดใหญ่มากที่สุด ซึ่งต้องฝากพ่อแม่ ผู้ปกครองให้ช่วยดูแลบุตรหลานด้วย
ขณะที่โรคปอดอักเสบพบแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งแตกต่างจากปีก่อนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการป้องกัน COVID-19 ด้วยเช่นกัน
กรุงโตเกียว พบติดเชื้อใหม่กว่า 100 คน
ขณะที่สถานการณ์การระบาด COVID-19 ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อรวม 10,970,706 คน เพิ่มขึ้นวันเดียว 179,437 คน รักษาหายแล้ว 6,129,273 คน และเสียชีวิตสะสม 523,171 คน สหรัฐอเมริกา ยังป่วยมากสุด 2,837,189 คน ป่วยเพิ่มวันเดียวกว่า 57,000 คน
ในเอเชียอินเดียยังป่วยสะสมมากสุด 627,168 คน รองลงมาคือ ปากีสถาน และบังกลาเทศ ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมเป็นอันดับที่ 96 ของโลก
ขณะที่ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว 107 คน มากสุดในรอบสองเดือน แต่ทางการญี่ปุ่นยังยืนยันว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ย้ำต้องรักษาวินัย หลังคลายล็อก
โฆษก ศบค. กล่าวว่า วันนี้(3 ก.ค.) มีคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ จากไคโร ประเทศอียิปต์ 250 คน ส่วนในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) มีคนไทยเดินทางมาจากสหรัฐฯ เยอรมนี เวียดนาม และโซลรวมกว่า 400 คน
การใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ พบผู้ใช้งาน 33,275,657 คน กิจการ/ร้านค้าลงทะเบียน 259,260 ร้าน สถิติเช็กอิน/เช็กเอาต์ ผ่านแพลตฟอร์ม 54.2% และผ่านแอปฯ 84.9% และดาวน์โหลดแอปฯ แล้ว 571,990 คน
ตรวจสอบกิจการ/กิจกรรมผ่านคลาย พบส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่ยังพบบางแห่งเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อย หรือการนั่งห่างกัน รวมถึงการทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็ยังต้องมี จึงขอความร่วมมือประชาชนด้วย
เผยมี 1,700 คนขอเข้าไทยรักษาตัว
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการนำเสนอร่าง Medical and Wellness หรือการนำผู้เดินทางมาจากต่างประเทศในฐานะผู้ป่วยนั้น 1 ก.ค. ให้ Medical and Wellness เข้ามา หากทำได้ดี 1 ส.ค. อาจให้คนกลุ่มนี้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ หลังจากอยู่ในโรงพยาบาล 14 วัน เหมือนการอยู่ใน State Quarantine รวมถึงการไปเที่ยวในสถานที่ที่จัดให้แบบมีทุกอย่างอยู่ในนั้นและจำกัดบริเวณไว้
ส่วน Alternative Hospital Quarantine เน้นรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ก็ต้องตรวจโรคก่อนว่าไม่มี COVID-19 เมื่อมาก็ต้องอยู่ในโรงพยาบาล 14 วันเช่นกัน ขณะนี้มีโรงพยาบาลสมัครเข้าร่วม 62 แห่งแล้ว
ผู้ป่วยที่เข้ามาต้องมีใบนัดแพทย์และใบ COE ที่สถานทูตฯ ออกให้ โดยกระทรวงสาธารณสุขเผยมีคนลงทะเบียนแล้ว 17 ประเทศ เช่น เมียนมา 478 คน กัมพูชา 477 คน เวียดนาม 39 คน จีน 69 คน การ์ตา 95 คน ซาอุดีอาระเบีย 14 คน โอมาน 187 คูเวต 137 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 223 คน รวมแล้วกว่า 1,700 คน
ส่วนการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ หลายคนกังวลว่าอาจทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ ต้องชี้แจงว่าเรื่องการควบคุมโรคเป็นภารกิจของคนทั้งชาติ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลผ่อนคลายแล้ว ก็หวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ โดยเน้นให้คิดว่า ตัวเองต้องปลอดภัย
ส่วนการผลัดกันเรียนนั้น ถามว่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อไร คงตอบไม่ได้ ครูอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีการเรียนการสอนพัฒนาไปไกล เด็กอาจจะใช้โทรศัพท์มือถือ ทีวี นี่คือการเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ อาจขรุขระไปบ้างแต่ก็ยังดำเนินไปได้
สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่แถลงข่าววันจันทร์ พุธ ศุกร์ โดยในสัปดาห์หน้าจะแถลงสถานการณ์ COVID-19 วันจันทร์และวันพฤหัสบดีเท่านั้น ที่จะแถลงสดจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อผ่อนคลายตามสถานการณ์