วันนี้ (6 ก.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ไทยพบผู้ป่วยเพิ่ม 5 คน พบใน State Quarantine รวมสะสมไทยป่วย 3,195 คน หายป่วยเพิ่ม 1 คน รวม 3,072 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 65 คน และเสียชีวิตคงที่ 58 คน สำหรับผู้ป่วยใหม่ทั้ง 5 คน มาจากคูเวต เป็นชาย 4 คน อายุ 34 ,46, 48 และ 51 ปี อาชีพรับจ้าง และหญิงอีก 1 คน อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานนวด ทั้งหมดเดินทางมาเที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยรายงานก่อนหน้า 5 คน เข้าพักใน State Quarantine ที่กทม.ตรวจพบเชื้อโดยไม่มีอาการป่วยทั้งหมด
ขณะที่สถานการณ์โลกป่วย COVID-19 สะสม 11,556,681 คน ป่วยเพิ่มวันเดียว 176,048 คน หายแล้ว 6,535,492 คน เสียชีวิต 536,776 คน สหรัฐอเมริกา ยังป่วยมากสุด 2,982,928 คน และคาดว่าจะป่วยแตะ 3 ล้านคนพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) รองลงมาคือ บราซิล และอินเดีย ขณะที่ฝรั่งเศส และสเปนมีรายงานผู้ป่วย 0 คน ต่อเนื่อง 2 วันแล้ว ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 97 ของโลก
ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ วันนี้ (6 ก.ค. 63) จากสิงคโปร์ 128 คน และเกาหลีใต้ 200 คน ส่วนพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) มาจาญี่ปุ่น 160 คน จากเซี่ยงไฮ้ 30 คน เพิ่มนักธุรกิจ 20 คน และ ปักกิ่ง 30 คน เพิ่มนักธุรกิจ 32 คน โดยโควตาคนกลับจากต่างประเทศวันหนึ่ง 500 คน เมื่อโควตาไม่เต็มจึงได้ให้นักธุรกิจจากต่างประเทศกลับมาด้วย แต่ทุกคนจะได้เข้าพักที่ State Quarantine
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศทางบก มีทางมาเลซีย 66 คน สปป.ลาว 10 คน และกัมพูชา 4 คน รวมเดินทางสะสม 18 เม.ย.- 5 ก.ค.นี้ รวม 22,545 คน ขณะทีช่วง 1 เดือนมีแรงงานข้ามชาติที่เดินทางผิดกฎหมายเข้ามาแล้วกว่า 3,000 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าดูแลผ่านทาง ตม.แล้ว บางส่วนผลักดันกลับประเทศ บางส่วนพาไปอยู่ในที่ที่จัดไว้
ยอดรวมคนเข้าพักใน State Quarantine และ Local Quarantine อยู่ที่ 52,957 คน กลับบ้านแล้ว 43,849 คน พบเชื้อ 258 คน และรักษาหายแล้ว 193 คน
เปิดขั้นตอนรับต่างชาติเข้ารักษาในไทย
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้พูดถึงการนำคนเข้ามาักษาในไทย ได้มีโปรแกรม Medical and Wellness Program ทั้งนี้เพื่อสร้างระบบการกักกันตัวร่วมกับการรักษาพยาบาล โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ป่วยและผู้ติดตามชาวต่างชาติที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลเท่านั้น ตามโรคเฉพาะกลุ่ม เดินทางด้วยสายการบินเท่านั้นและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการรักษาพยาบาลนั้น ก่อนเดินทางเข้ามาต้องใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate) หรือตามสภาพการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางการแพทย์ว่าตรวจไม่พบเชื้อก่อ COVID-19 ภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางรวมกักกันตัวจนครบ 14 วัน ในสถานพยาบาลที่กำหนด และตรวจแล็บ COVID-19 รวม 3 ครั้ง เพื่อสร้างรายได้กลับเข้าประเทศ โดยมีโรงพยาบาลเอกชน 67 แห่ง และคลินิกเฉพาะทาง 1 แห่ง รับผิดชอบ ซึ่งการรักษาจะเน้นการรักษาผู้มีบุตรยาก เสริมความงาม รวมถึงการทำฟันด้วย
มีคนขึ้นทะเบียนแล้ว 34 ประเทศ รวม 1,169 คน ผู้ติดตาม 1,521 คน จากอาเซียน 1,685 คน จีน 389 คน ยุโรป 23 คน เอเชียใต้ 125 คน ตะวันออกกลาง 427 คน อเมริกาเหนือ 16 คน โอเชียเนีย 2 คน และแอฟริกา 23 คน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงการต่างประเทศ และ ศบค.ได้กำหนดขั้นตอนโดยก่อนเข้ามาต้องลงทะเบียน ตรวจสอบเอกสารโดยกระทรวงการต่างประเทศ และต้องไม่ติดเชื้อ COVID-19 และมีการคัดกรองตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเข้ามาแล้วต้องอยู่โรงพยาบาลไม่ถึง 14 วัน ไม่ให้กลับก่อน ต้องอยู่ให้ครบ 14 วัน และตรวจซ้ำ 3 ครั้งขณะอยู่ในประเทศไทย
ห่วงคนไทยการ์ดตก-แออัดช่วงวันหยุด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีคนไทยในประเทศอังกฤษ ร้องผ่านสื่อขอกลับไทยเนื่องจากมีความเครียดกับสถานการณ์COVID-1 9 และป่วยซึมเศร้าว่าที่ประชุมศบค.ชุดเล็กได้นำเข้าหารือเร่งด่วนแล้วสาเหตุที่ยังกลับไม่ได้เพราะเที่ยวบินไม่เพียงพอ ขณะนี้มีคนรอคิวกว่า 600 คน จึงจัดทำแผนการเดินทางระยะสั้นให้กับผู้ที่มีความจำเป็น เช่น มีอาการป่วยเหมือนกรณีดังกล่าว มีญาติไม่สบาย หรือเสียชีวิต จะจัดหาเที่ยวบินให้เดินทางกลับมาก่อน แต่ต้องต่อเครื่องจะมีการแยกคนที่จำเป็นเร่งด่วนออกเป็นกลุ่มๆ
ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานเครื่องบินเช่าเหมาลำ กลับมา 2 เที่ยวบินในวันที่ 20 ก.ค. และ 26 ก.ค.นี้ ส่วนระยะยาว ขอให้สถานทูตอังกฤษเป็นหน่วยงานกลางประสาน กับหน่วยงานแพทย์ หรือหน่วยงานความมั่นคง เพื่อให้คนไทยกลับมา
ส่วนคำถามกรณีวันหยุดยาว 4-7 ก.ค.นี้ พบว่ามีคนแออัดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร บางพื้นที่ไม่มีการเว้นระยะห่าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังขอความร่วมมือ 3 ส่วนคือผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ และทีมตรวจสอบของภาครัฐต้องคงความเข้มข้นเพื่อป้องกัน COVID-19 และเทียวแบบชีวิตวิถีใหม่ แม้ไทยจะไม่คนติดเชื้อภายในประเทศ แต่ยังพบว่ามีความเสี่ยงอื่นๆ เช่นกรณีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาในไทยราว 3, 000 คน และคนกลุ่มนี้อาจเป็นเหตุนำเชื้อเข้ามาได้ ดังนั้นเป็นวัคซีนป้องกันตัวเองคือต้องใส่หน้าหากอนามัยและมาตรการ 5 ข้อที่ประชาชนประชาชขนต้อองปฏิบัติเสมอถ้าการ์ดตกเสี่ยง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค.ชี้จัด จนท. 2 ทีมประกบ "ผบ.ทบ.สหรัฐฯ" ห้ามออกนอกเส้นทาง