"ป่าโคกดงเค็ง" ถูกตัดเหี้ยนเหลือแต่ตอกว่า 3,000 ต้น

สิ่งแวดล้อม
20 ก.ค. 63
09:36
6,745
Logo Thai PBS
"ป่าโคกดงเค็ง" ถูกตัดเหี้ยนเหลือแต่ตอกว่า 3,000 ต้น
เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ในป่าชุมชนโคกดงเค็งเหลือแต่ตอกว่า 3,000 ต้น ขณะที่เทศบาล ต.นาดูน จ.มหาสารคาม เผยเร่งหาผู้กระทำผิด เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และปกป้องผลประโยชน์ของชาวนาดูน

วันนี้ (20 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการแชร์บนโลกโซเชี่ยลว่าพบมีการลักลอบตัดไม้ในป่าชุมชนโคกดงเค็ง ใกล้พระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ซึ่งมีต้นไม้ถูกตัดเหลือแต่ตอเป็นจำนวนมาก สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่มาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ลงพื้นที่สำรวจ พบว่ามีไม้ถูกตัดจำนวน 3,000 ต้น พร้อมแจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.นาดูน เพื่อหาผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบ โดยพบกับเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.นาดูน ที่ลงพื้นที่มาสำรวจแนวป่า และต้นไม้ที่ถูกตัดเช่นเดียวกัน

 

 

ผศ.ดร.วิรัตน์ ปานศิลา ประธานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคามขอใช้พื้นที่ โดยใช้ชื่อว่าสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช ในการศึกษาวิจัยต้นไม้ธรรมชาติจำนวน 550 ไร่ ส่วนมากเป็นไม้จิก หรือต้นเต็ง เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2530 แต่ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้นำมาใช้ในการวิจัยในปี 2535 ซึ่งได้นำเจ้าหน้าที่ได้ไปสำรวจ ทำให้ทราบว่าสวนสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ถูกตัดต้นไปแล้ว 3,000 ต้น เหลือแต่ตอไม้ จึงอยากให้ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือพื้นที่ที่รับผิดชอบได้หาผู้กระทำผิดมาลงโทษ

เร่งตรวจสอบจำนวนไม้ที่ถูกตัด

นายรักชาติ เนาวรัตน์ ปลัดเทศบาล ต.นาดูน กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นไม้ที่ตัดไปส่วนใหญ่เป็นไม้จิก ซึ่งไม่ถือเป็นไม้ประเภทหวงห้าม แต่ต้องขออนุญาตตัด แต่ถ้าตัดในป่าสาธารณะถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งป่าผืนนี้เป็นป่าโคกดงเค็ง เป็นป่าสาธารณะของชุมชน มีพื้นที่จำนวน 900 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ 4 หน่วยงาน คือสำนักงานป่าไม้ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล ต.นาดูน และสำนักงานกองทุนอนุรักษ์พระธาตุนาดูน

 

 

นอกจากนี้ ยังมีสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ขอใช้พื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติจำนวน 550 ไร่ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าไม้ที่ถูกตัดมีจำนวนทั้งหมดกี่ต้น เพื่อจะรายงานไปทางอำเภอและจังหวัด เพื่อที่จะขอใช้อำนาจการปกครองท้องที่ทำการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

คาดว่าถูกตัดไม่เกิน 2-3 เดือน

จากการตรวจสอบรอบพื้นที่ พบว่าต้นไม้ถูกตัดนับพันต้น มีทั้งรอยตัดใหม่ และรอยตัดเก่า ไม่น่าจะเกิน 2-3 เดือน บางต้นเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10-20 เซนติเมตร ซึ่งต้นไม้ประเภทนี้เป็นไม้เนื้อแข็ง เหมาะสำหรับทำเสารั้ว หรือเฟอร์นิเจอร์ ส่วนเส้นทางการตัดพบว่ามีการตัดกิ่งไม้ออกก่อน หลังจากนั้น ค่อยมาตัดต้นไม้ตามหลัง เพราะพบต้นไม้ยืนต้น ไม่มีกิ่งไม้ และใต้ต้นไม่มีกิ่งไม้เหลืออยู่ ซึ่งคาดว่ามีการทำเป็นขบวนการ

 

 

ส่วนบริเวณที่ตัดต้นไม้ จะอยู่ระหว่างทางเดินเป็นส่วนใหญ่ ง่ายต่อการขนย้าย เมื่อเดินสำรวจไปจนสุดทาง พบมีถนนดินที่ชาวบ้านใช้เดินทางไปทุ่งนา สามารถลัดเลาะออกไปหมู่บ้าน หรือถนนใหญ่ได้ น่าจะเป็นเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี

สำหรับป่าชุมชนโคกดงเค็งมีพื้นที่ทั้งหมด 900 ไร่ มีพื้นที่เขตรอยต่อระหว่าง อบต.พระธาตุ กับเทศบาล ต.นาดูน มหาวิทยาลัยมหาสารคามเข้ามาดูแล ศึกษา ขยายพันธุ์ ศึกษาพันธุ์ไม้ วิจัยพันธุ์ต้นไม้ และพื้นที่ทั้งหมด 900 ไร่ ยังอยู่ในการดูแลของเทศบาล ต.นาดูน และยังอยู่ในอำนาจของนายอำเภอนาดูน พื้นที่โคกดงเค็งยังคงเป็นสภาพป่า ตามสภาพ พ.ร.บ.ป่าชุมชน ถ้าหากมีการเปลี่ยนสภาพป่า ต้องไปถอนสภาพออกก่อน

ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาข่าว

ด้าน ร.ต.อ.สุพรรณ นิสาวัน รอง สว. (สอบสวน) สภ.นาดูน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวหลังจากได้รับแจ้งจาก สภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนออกหาข่าว เพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

ล่าสุด นายกเทศบาล ต.นาดูน ได้สั่งการให้ปลัดรักชาติ เนาวรัตน์ ปลัดเทศบาล ต.นาดูน พร้อมทีมงาน ออกตรวจสอบกรณีมีการลักลอบตัดต้นไม้ในบริเวณป่าชุมชนโคกดงเค็ง ใกล้พระบรมธาตุนาดูน ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นไม้ที่ถูกตัดบางส่วน อยู่ในเขตเทศบาล ต.นาดูน และได้ไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเอาผิดกับผู้ลักลอบตัดต้นไม้ดังกล่าว และปกป้องผลประโยชน์ของชาวนาดูนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง