วันนี้ (21 ก.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนกลุ่มสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง เป็นตัว แทนผู้ประกอบการ และประชาชนรวม 454 คน เดินทางมาที่ศาลปกครองระยอง เพื่อเข้าร่วมฟังคำพิพากษา ในคดีที่กลุ่มสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยองกับพวก ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นจำเลยที่ 1 กับ พวกรวม 6 คนว่ามีกระบวนการล่าช้า เกี่ยวกับการไม่ฟื้นฟูสภาพพื้นที่และสิ่งแวด ล้อม จากเหตุการณ์เรือน้ำมันของบริษัท พีทีที ซีจี โกบอล เคมิคอล จำกัด มหาชน (ปตท.) รั่วลงทะเลอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ไม่น้อยกว่า 50,000 ลิตร เมื่อปี 2556
และต่อมาศาลระยอง สั่งให้บริษัทชดใช้ และฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างแต่การฟื้นฟู กลุ่มชาวบ้านเห็นว่าไม่ชัดเจน ทำให้สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กและประชาชน จังหวัดระยอง 453 คน ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่สั่งเยียวยาแก้ไข
โดยบรรยากาศภายในศาลปกครอง เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเก้าอี้ และ โทรทัศน์ถ่ายทดภาพและเสียงไว้ให้กลุ่มประชาชนและสมาคมประมงพื้นบ้าน ที่เดินทางมาวันนี้จำนวนมากได้ฟังด้วย บริเวณ โถงทางชั้น 1 ของตึกศาล โดยจัดเก้าอี้ เว้นระยะห่างระหว่างกันตามหลัก โซเชียลดีสแทนซิ่ง เนื่องจากภายในห้องอ่านคำพิพากษา มีพื้นที่ และ จำนวนเก้าอี้จำกัด
การอ่านคำพิพากษาวันนี้ เริ่มต้นเวลา 11.00 น.เป็นการอ่านของศาลชั้นต้น บรรยากาศภายในศาลปกครอง เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเก้าอี้ และโทรทัศน์ถ่ายทอดภาพและเสียง ให้กลุ่มประชาชนและสมาคมประมงพื้นบ้าน ที่เดินทางมาได้ร่วมฟังด้วย บริเวณโถงทางชั้น 1 ของตึกศาล โดยจัดเก้าอี้เว้นระยะห่างเนื่องจากภายในห้องอ่านคำพิพากษา มีพื้นที่ และจำนวนเก้าอี้จำกัด
ศาลปกครองใช้เวลาอ่านพิจารณา 40 นาที มีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า หน่วยงานที่ถูกฟ้อง ไม่ได้ละเลย ต่อการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดเหตุ และมีการติดตามแก้ปัญหา และ สำรวจในช่วงปี 2556 -2557
ขณะที่กลุ่มสมาคม เตรียมยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ใน 30 วัน และนัดประชุมใหญ่ในอีก 5 วันข้างหน้า เพื่อกำหนดการเคลื่อนไหวภายในจังหวัดระยอง
6 ปียังคาดหวังแก้น้ำมันรั่วอ้าวพร้าว
นายไพบูลย์ เล็กรัตน์ ผู้ประสานงานกลุ่มสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง กล่าวว่า เราไม่พอใจกับการแก้ปัญหา เหตุการณ์น้ำมันรั่วเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่การรับมือแก้ปัญหาไม่ดี รัฐแล้เอกชนต่างคนต่างทำผ่านมา 6 ปีน้ำมันรั่วทะเลระยองยังไม่ได้ฟื้นฟู ไม่มีแผน
เราคาดหวัง แต่ไม่รู้ว่าจะหวังได้หรือไม่ ไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาอย่างไร ก็คงต้องเดินหน้าต่อไปในการเรียกร้อง คงไม่ได้หยุดแค่นี้ แต่จะใช้ทุกวิถีทางในการลงมือ
ด้านนายบรรเจิด ล่วงพ้น ผู้ประสานงานกลุ่ม สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชาวประมงเห็นต่างในทางปฏิบัติ เพราะถูกมองข้ามพื้นที่เกิดเหตุ เพราะรัฐมุ่งไปแก้ที่เกาะเสม็ด เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนงานวิจัยที่บอกว่าทำครบถ้วน มีการเก็บคุณภาพน้ำทะเล ดิน คุณภาพอากาศว่าไม่เกินมาตรฐาน แต่ลืมไปว่ามวลสารที่จมไปใต้ทะเล จากมวลน้ำมันหลายหมื่นลิตร ไม่สามารถหายด้วยตัวเอง แต่ผลวิจัยกลับบอกว่าไม่เกินมาตรฐาน แต่มาบอกว่าสัตว์น้ำไม่ลดลง