Last Book in the Universe เปิดแคมเปญร้อง ศธ.ปรับแบบเรียน "เกี๊ยว"

สังคม
21 ก.ค. 63
13:40
392
Logo Thai PBS
Last Book in the Universe เปิดแคมเปญร้อง ศธ.ปรับแบบเรียน "เกี๊ยว"
เพจเฟซบุ๊ก Last Book in the Universe ได้สร้างแคมเปญรณรงค์ เรื่อง ถึงเวลาปรับเนื้อหาไม่เหมาะสมในแบบเรียนภาษาไทย #Saveเกี๊ยว ผ่านเว็บไซต์ change.org ล่าสุด มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้วกว่า 1,800 คน

วันนี้ (21 ก.ค.2563) เพจเฟซบุ๊ก Last Book in the Universe ได้สร้างแคมเปญรณรงค์โดยใช้ชื่อว่า ถึงเวลาปรับเนื้อหาไม่เหมาะสมในแบบเรียนภาษาไทย #Saveเกี๊ยว เพื่อร่วมร้องเรียนสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมระบุว่าข้อความว่า "เกี๊ยวตัวสูงใหญ่เกินอายุ หน้าตาสะสวย แต่งตัวเก่ง เกี๊ยวใจแตกมาตั้งแต่ยังไม่มีคำนำหน้าว่านางสาว ตามีไว้ดูโทรทัศน์ ปากมีไว้กิน และพูดเรื่องไร้สาระ หูมีไว้แนบกับโทรศัพท์มือถือแทบไม่เคยห่าง ตอนกลางวัน เกี๊ยวหนีโรงเรียนไปเที่ยวตามศูนย์การค้า กลางดึกก็หนีออกจากบ้านไปเที่ยวผับ หนุ่มๆ ในซอยสามารถหยอกเอินเกี๊ยวด้วยคำพูดที่คึกคะนอง ลามปามไม่ให้เกียรติ แทนที่จะโกรธและเดินหนี เกี๊ยวกลับสนุกที่จะโต้ตอบกลับ ด้วยคำพูดในลักษณะเดียวกัน"

แม้หลายฝ่ายจะบอกว่าบทเรียนเรื่องนี้มีเจตนาดี อยากที่จะตักเตือนเด็กๆ แต่ถ้ายังมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนไม่เหมาะสมดังที่ยกมาข้างต้น ก็ยังไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นแบบเรียนที่ดีหรือเหมาะสมได้

หลังจากที่มีการแชร์ภาพตัวอย่างแบบเรียนนี้ผ่านโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.2563 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างกว้างขวาง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ออกมาชี้แจง หรือพิจารณานำแบบเรียนข้างต้นออกจากหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อดำเนินการพิจารณาปรับแก้


นอกจากแบบเรียนภาษาพาที ป.6 หลายฝ่ายก็เริ่มพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในแบบเรียนชั้นอื่น รวมถึงวิชาอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ เพราะแบบเรียนมีความสำคัญต่อทัศนคติและการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นของน้องๆ ในระยะยาว จึงถึงเวลาแล้วที่แบบเรียนในลักษณะนี้จะต้องถูกนำมาทบทวนใหม่

เราขอเป็นปากเป็นเสียงแทนเกี๊ยวและขอชวนทุกคนมาช่วยกัน #Saveเกี๊ยว ก่อนที่จะเดินหน้า Save แบบเรียนเล่มอื่นต่อไป ด้วยการลงชื่อสนับสนุนในแคมเปญนี้ เพื่อเรียกร้องให้ สพฐ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการทบทวนเนื้อหาในแบบเรียนใหม่

ทั้งนี้ ล่าสุด ขณะนี้ผู้มีร่วมลงชื่อสนับสนุนแคมเปญออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ change.org แล้วกว่า 1,800 คน โดยบางคนแสดงความคิดเห็นว่า อาจมีวิธีเล่าและสร้างค่านิยมที่ดีกว่านี้ได้ เช่น การเล่าเคสจริงโดยไม่ต้องเอ่ยนาม ไม่ต้องใช้มุมมองบุคคลที่สามและน้ำเสียงตัดสินกันอย่างนี้ก็ได้ หรือ เห็นด้วยกับเจ้าของแคมเปญว่าเนื้อหามีลักษณะไปในทางยัดเยียด มีอคติ จึงไม่เหมาะเป็นหนังสือแบบเรียน และบางคนมองว่า ไม่เหมาะสม ใช้คำไม่เหมาะสมกับช่วงวัยผู้เรียน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

โซเชียลกังขา บทเรียนตีตราให้ “เกี๊ยว” ใจแตก ?

ถึงเวลาเปลี่ยน ไทยทอดทิ้ง "แบบเรียน" นานเกินไปหรือยัง?

“แบบเรียน” พื้นที่ช่วงชิงอำนาจสู่โอกาสส่งต่ออุดมการณ์

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง