ร้องอสส.ตรวจสอบคดี "วิคตอเรีย" หลังพบไม่สั่งฟ้อง 2 ผู้ต้องหา

อาชญากรรม
31 ก.ค. 63
11:56
609
Logo Thai PBS
ร้องอสส.ตรวจสอบคดี "วิคตอเรีย" หลังพบไม่สั่งฟ้อง 2 ผู้ต้องหา
เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดให้เร่งรัดคดีค้ามนุษย์สถานบริการวิคตอเรียซีเครท หลังพบสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาไป 2 คน และเห็นว่ามีขบวนการ “ฟอกคน” ทำให้คนผิดกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งที่มีหลักฐานทำผิดชัดเจน

วันนี้ (31 ก.ค.63) เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ และมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อสอบถามถึงผลการสอบสวนกรณีที่เครือข่ายฯ กรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีค้ามนุษย์ในสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครทที่มีความเห็นไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดี 2 คน คือ นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ภรรยาและลูกชายนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของสถานบริการฯ

น.ส.ชลีรัตน์ ทิมบุตร ผู้ประสานงานเครือข่ายต่อต้านการต้ามนุษย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางเครือข่ายได้ยื่นร้องเรียนต่อสำนักนายกรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วและทราบเบื้องต้นว่า นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะทำงาน และสั่งยุติการสอบสวนเรื่องนี้ไปแล้วทำให้วันนี้จึงยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง

ขณะที่นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานกรรมการมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ ได้ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดให้เร่งตรวจสอบสำนวนคดีดังกล่าว เนื่องจากยังไม่สามารถจับตัวนายกำพล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลักในคดีและยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศทำให้ยังไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ แม้ว่าศาลจะออกหมายจับไว้แล้ว หากปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเกรงว่าจะทำให้อัยการไม่สั่งฟ้องคดีเช่นเดียวกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยาได้ และเห็นว่าอาจจะมีขบวนการ “ฟอกคน” เกิดขึ้น คือการทำให้คนไม่ดี กลายเป็นคนดี หรือเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ ซึ่งขบวนการดังกล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องที่ทำให้บุคคลพ้นผิดและไม่ต้องการให้คดีสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครทต้องเป็นแบบนั้น

ส่วนกรณีที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดยุติการสอบสวน ซึ่งการไม่สั่งฟ้อง 2 ผู้ต้องหานั้น เห็นว่าไม่ถูกต้องเพราะผู้ต้องหามีความผิดชัดเจนแต่ไม่สั่งฟ้องและเมื่อยื่นเรื่องตรวจสอบก็ยุติการสอบสวน รวมทั้งไม่ไว้ใจการทำงานของนายเนตรที่ยุติการสอบสวนและสั่งไม่ฟ้องในหลายคดีที่สำคัญ ๆ

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มารับหนังสือของ 2 เครือข่ายและเตรียมเสนอให้อัยการสูงสุดดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่ร้องเรียนต่อ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในคดีนี้ได้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องก่อน ขณะที่กรณีของผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับของศาล เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการติดตามจับมาส่งให้อัยการดำเนินการส่งฟ้อง ทางอัยการไม่มีหน้าที่ไปจับผู้ต้องหา แต่หากมีการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบก็จะทำหนังสือสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนอีกครั้งเพื่อให้เร่งรัดคดี 

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง