กรมชลฯ ไม่เปิดทุ่งบางระกำรับน้ำสุโขทัย ผันลงคลองสาขา

วันนี้ (26 ส.ค.2563) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่ประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลังจากมวลน้ำจาก จ.สุโขทัย หลากมาถึง จ.พิษณุโลก ผ่านแม่น้ำยมสายเก่า โดยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพรวมในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา จึงได้ตัดสินใจบริหารจัดการน้ำโดยจะไม่นำน้ำเข้าทุ่งบางระกำทั้งหมด แต่จะทยอยนำน้ำเข้าคูคลองสาขาในทุ่งบางระกำ จำนวน 99 สาขา เพื่อเก็บกักน้ำเอาไว้ประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำที่เหลือจะปล่อยลงสู่แม่น้ำยมเพื่อไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากในพื้นที่ภาคกลางยังมีความต้องการน้ำ เพราะฝนตกน้อยบางจุดขาดแคลนน้ำ

ส่วนทุ่งบางระกำโมเดลจะเก็บเอาไว้ใช้เป็นที่รับน้ำ เนื่องจากยังคงมีร่องความกดอากาศต่ำทางตอนบนของประเทศ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีฝนตกหนักทางตอนบนของประเทศอีกหรือไม่ หากนำน้ำเข้าทุ่งบางระกำโมเดลตอนนี้ ในอนาคตจะไม่มีเครื่องมือเอาไว้บริหารจัดการน้ำ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ทุ่งบางระกำ เรื่อยไปจนถึง จ.พิจิตรและนครสวรรค์ คลายความกังวล เพราะกรมชลประทานจะพยายามบริหารจัดการ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน

เฝ้าระวังน้ำแม่น้ำยมสายเก่า

กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ต.ท่าช้าง อ.พรหพิราม จ.พิษณุโลก จัดเวรยามเฝ้าระวังแม่น้ำยมสายเก่า หลังมีมวลน้ำจาก จ.สุโขทัย ไหลมาถึงยังพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้เสริมกระสอบทรายและพนังดิน เนื่องจากเกรงว่าหากน้ำล้นตลิ่งจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนริมแม่น้ำ โดยเฉพาะหมู่บ้านใหม่สำราญ และหมู่บ้านวังขี้เหล็ก มีประชาชนอาศัยที่อยู่ริมตลิ่งกว่า 50 ครอบครัว จึงแจ้งเตือนให้นำทรัพย์สินมีค่าขึ้นไว้ที่สูง ป้องกันความเสียหาย

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำที่ไหลจาก จ.สุโขทัย ที่จุดวัดระดับน้ำ Y14 เริ่มลดลง และจะส่งผลให้พื้นที่รับน้ำของ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะแม่น้ำยมสายเก่าจะมีปริมาณที่สูงขึ้น ซึ่งชลประทานได้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะผ่านจุดสูงสุดในช่วงค่ำของวันนี้