ญาติติดใจสาวดูดไขมันเสริมหน้าอกดับ รอผลชันสูตร รพ.ตำรวจ

อาชญากรรม
31 ส.ค. 63
14:58
359
Logo Thai PBS
ญาติติดใจสาวดูดไขมันเสริมหน้าอกดับ รอผลชันสูตร รพ.ตำรวจ
สบส.ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามย่านยานนาวา หลังหญิงสาวเข้ารับบริการดูดไขมันเสริมหน้าอกเสียชีวิต เบื้องต้นตรวจพบแพทย์ที่ทำการรักษาไม่มีใบอนุญาตรักษาที่คลินิก ขณะที่คลินิกไม่ได้แจ้งจดทะเบียนขออนุญาตโฆษณาดูดไขมัน ส่วนญาติยังติดใจปมเสียชีวิต

วันนี้ (31 ส.ค.2563) ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมทีมกฏหมาย และตำรวจ สน.บางโพงพาง เข้าตรวจสอบภายในคลินิกแห่งหนึ่งย่านยานนาวา หลังได้รับร้องเรียนว่ามีผู้รับบริการดูดไขมันเสริมหน้าอกเสียชีวิต โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายใน

จากการตรวจสอบนานกว่า 1 ชั่วโมง รองอธิบดี สบส. เปิดเผยว่า คลินิกดังกล่าวจดทะเบียนถูกต้อง ขณะที่ห้องผ่าตัด เครื่องมือการรักษา ยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์กู้ชีพ ถูกต้องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่ได้แจ้งจดทะเบียนขออนุญาตโฆษณาบริการดูดไขมัน ซึ่งมีโทษปรับ 20,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนแพทย์ที่รักษาผู้เสียชีวิต พบว่าเป็นแพทย์จริง แต่ไม่มีใบ สพ.6 หรือใบอนุญาตปฏิบัติงานในสถานพยาบาลดังกล่าว

สำหรับสาเหตุที่หญิงสาวเสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกิดจากความผิดพลาดระหว่างการให้บริการหรือไม่ เพราะขั้นตอนการดูดไขมันมีความเสี่ยง 2 กรณี คือเครื่องมืออุปกรณ์ห้องผ่าตัดไม่มีมาตรฐานก่อให้เกิดการติดเชื้อ และกรณีที่ 2 เกิดจากความผิดพลาดในระหว่างการรับบริการ ทำให้เกิดภาวะไขมันเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด โดยญาติผู้เสียชีวิตได้ขอให้ชันสูตรศพซ้ำอีกครั้ง คาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน

เบื้องต้น คลินิกดังกล่าวยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติในส่วนบริการเวชกรรมรักษาโรคทั่วไปและบริการอื่นๆ ที่มีการแจ้งขออนุญาตไว้ ขณะที่คลินิกได้แจ้งปิดบริการชั่วคราว 26-31 ส.ค.2563

ญาติติดใจปมตาย เผยมีคนเสนอเงิน 2 ล้านบาท

ด้านแฟนของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยังติดใจขั้นตอนการศัลยกรรม ซึ่งเป็นการดูดไขมันจากต้นขาและต้นแขน เพื่อฉีดเสริมหน้าอก ไปจนถึงการตรวจรักษาอาการหลังศัลยกรรม เพราะไม่เคยได้พบแพทย์ โดยเฉพาะหลังมีอาการผิดปกติแล้วกลับเข้าไปที่คลินิก ไม่มีแพทย์ผู้ศัลยกรรมมาให้คำปรึกษา มีแต่เจ้าหน้าที่คลินิกที่ดูแล ฉีดยาแก้ปวดและให้น้ำเกลือ ครอบครัวจึงตั้งข้อสังเกตว่า การให้ยาแก้ปวดต้องผ่านการตรวจรักษาอาการ หรือพิจารณาอาการผู้ป่วยก่อนหรือไม่ รวมถึงการย้ายโรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สมอ้างเป็นพี่สาว ทั้งที่พี่สาวนั่งรออยู่นอกห้องรักษา แต่กลับไม่ได้รับทราบก่อนมีการย้ายโรงพยาบาล

กระทั่งเสียชีวิต ส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งแพทย์นิติเวชระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ไม่ได้ระบุว่าเกิดการติดเชื้อได้อย่างไร แต่เมื่อครอบครัวตัดสินดำเนินคดีกับคลินิก จึงนำศพผู้เสียชิวิตผ่าชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

แฟนของผู้เสียชีวิต ยังระบุอีกว่า หลังจากแจ้งความที่ สน.บางโพงพาง และยื่นคำร้องให้พนักงานสอบสวนออกเอกสารเพื่ออายัดศพมาผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ก็มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นคนของคลินิกโทรศัพท์มาหาและยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 2 ล้านบาท รวมค่ารักษาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งครอบครัวยังไม่ขอรับ อีกทั้งไม่มั่นใจว่าคนที่โทรติดต่อมาหานั้นเป็นแพทย์หรือเป็นบุคคลของคลินิกจริงหรือไม่

ทั้งนี้ ครอบครัวตัดสินใจฝากศพไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ จนกว่าจะได้รับผลการผ่าชันสูตร เพื่อป้องกันความผิดพลาดทางคดี โดยแพทย์แจ้งว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 45 วันในการออกผลการผ่าชันสูตรพลิกศพ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง