"หมอยง" คาดสิ้นปีทั่วโลกติด COVID-19 แตะ 50 ล้านคน

สังคม
3 ก.ย. 63
11:09
586
Logo Thai PBS
"หมอยง" คาดสิ้นปีทั่วโลกติด COVID-19 แตะ 50 ล้านคน
ศบค.เผยวันนี้ (3 ก.ย.) ไทยพบผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่เพิ่ม 2 คน กลับมาจากสหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซีย พักใน State Quarantine ขณะที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คาดสิ้นปีนี้ผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกถึง 50 ล้านคน

วันนี้ (3 ก.ย.2563) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ระบุว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 2 คน ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,427 คน หายป่วยแล้ว 3,277 คน เสียชีวิตสะสม 58 คน

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คนวันนี้ คนแรก เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 22 ปี เดินทางมาจากอินโดนีเซีย กลับไทยเมื่อ 20 ส.ค. (เที่ยวบินเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า) เข้าพัก state quarantine ใน จ.ชลบุรี ส่วนอีก 1 คน เป็นหญิงไทยอายพ 23 ปี อาชีพรับจ้าง กลับจากสหรัฐฯถึงไทยเมื่อวันที่ 21 ส.ค. เข้าพัก state quarantine ใน กรุงเทพฯ

บราซิลติดเชื้อเฉลี่ย 4 หมื่นคนต่อวัน

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยติดเชื้อแตะ 26 ล้านคน ยอดผู้ติดเชื้อยังคงมีตัวเลขมากกว่า 200,000 คน ตลอดรอบเดือนที่ผ่านมา โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 6.2 ล้านคน

และในวันนี้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 4 ล้านคน และยังคงอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยประมาณ 40,000 คนต่อวัน

 

ขณะที่ อินเดีย สถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดทะลุ 82,860 คนทำสถิติสูงสุดของการรายงาน

โคลอมเบีย ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้แซง แอฟริกาใต้แล้ว อยูที่ 633,339 คน อยู่อันดับที่ 6 ของโลก ขณะที่ เปรูพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นล่าสุด 191 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตแซงสเปนแล้ว ขยับมาอยู่ที่ 8 ของโลก

เมียนมายังน่าห่วง ป่วยใหม่เพิ่ม

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้ เมียนมายังน่าเป็นห่วง ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 76 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 995 คน

ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูง โดยอินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 3,075 คน และ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,218 คน

สิงคโปร์สถานการณ์ดีขึ้น ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 8 คน ถือว่าน้อยที่สุดในรอบประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมาของสิงคโปร์ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 56,860 คน 

100 วัน ไร้ติดโควิดในประเทศ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุประเทศไทยสามารถควบคุมไม่ให้มีการระบาดของ COVID-19 ในประเทศได้ถึง 100 วันแล้ว

จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวม 26 ล้านคนแล้ว มีผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่า 8 แสนคน จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 4 วัน 1 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้น่าจะมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 50 ล้านคน และมีการสูญเสียชีวิตมากกว่าล้าน

 

ความหวังที่จะหยุดยั้งการระบาดของโรคได้ คือ วัคซีน แต่การให้วัคซีนกับคนทั้งโลกไม่ใช่เรื่องง่าย การจะหยุดยั้งการระบาดของโรคได้จะต้องมีคนติดเชื้อไปแล้ว รวมทั้งเกิดภูมิต้านทานที่ได้จากวัคซีนรวมกันแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 50-60 ของประชากร วัคซีนจะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ความหวังส่วนตัวขอให้มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 60% ก็ยังดี หรือให้วัคซีนแล้วถ้าติดเชื้อจะลดอาการรุนแรงลงได้

ไวรัสนี้จะยังอยู่กับเราตลอดไป สิ่งหนึ่งที่ต้องการอย่างยิ่งคือยาที่ใช้รักษาจำเพาะเพื่อลดความรุนแรงของโรค และไม่ให้เกิดการเสียชีวิตเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องการในระยะยาว

พร้อมยกตัวอย่างการระบาดของไข้หวัดสเปนที่ใช้เวลา 2 ปีโรคจึงสงบลง แต่เชื้อไม่ได้หมดไปและเปลี่ยนเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ส่วน COVID-19 หากไม่มีวัคซีนช่วยการระบาดจะต้องยาวนานกว่า 2 ปี

แต่ความเชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปีนี้ผลการศึกษาวัคซีนในระยะที่ 3 ที่มีถึงอย่างน้อย 6 ชนิดในปัจจุบัน ก็น่าจะเริ่มเห็นประสิทธิผลในการป้องกันโรคของวัคซีนแต่ละชนิดที่ทำการศึกษากัน

ไทยยังเสี่ยงโควิด-19 ขออย่าประมาท 

ด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกล่าสุดในวันนี้ ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 26 ล้านคนไปแล้ว โดยอินเดียติดเพิ่มกว่า 82,000 คน ทำลายสถิติโลก ทำให้เกิดความกังวลกันว่าอินเดียจะกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโลกได้หากไม่สามารถควบคุมได้ในเร็ววัน

ไทยแม้จะครบ 100 วันที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อภายในประเทศก็ขอให้อย่าประมาท เนื่องจากรายงานการตรวจติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมานั้น มีบางรายที่ดูคลุมเครือและฟันธงที่มาลำบากว่าจะมาจากต่างประเทศหรือในประเทศ

 

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดซ้ำในประเทศไทย หลังจากมีการแง้มประตูรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ เข้ามารวมถึงการประชิด ของ COVID-19 ที่มาจ่อถึงชายแดนไทย และมีรายงานการลักลอบเข้าเมืองจากเมียนมาผ่านช่องทางต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้เราต้องยกการ์ดขึ้นป้องกันตัวเสมอเวลาใช้ชีวิตประจำวัน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง