วันนี้ (7 ก.ย.2563) นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุว่า รัฐบาลประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 38,000 ล้านบาท ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่พัฒนาร่วมกับ บริษัทยาแอสตราเซเนกา และวัคซีนอีกหนึ่งตัวซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียกับบริษัทยาซีเอสแอล รวมประมาณ 85 ล้านโดส
หลังจากนี้ ออสเตรเลียจะเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่จะได้รับวัคซีน ทันทีที่วัคซีนเหล่านี้ได้รับการอนุมัติ ซึ่งรัฐบาลมีแผนจะแจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชน 25 ล้านคนทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คาดว่าวัคซีนอาจจะได้รับการอนุมัติในปี 2021
ส่วนที่รัฐวิกตอเรีย แดเนี่ยล แอนดรูว์ มุขมนตรี ได้กล่าวขอโทษประชาชนที่ต้องขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดออกไปอีก 2 สัปดาห์ จากกำหนดเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 13 ก.ย.นี้ โดยขยายออกไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย. เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังไม่ลดลงมากเท่าที่ควร
ทั้งนี้ รัฐวิคตอเรียตั้งเป้าว่าภายในเวลา 14 วัน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันควรอยู่ระหว่าง 30-50 คน จึงจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองได้
