วันนี้ ( 8 ก.ย.63) สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ซึ่งมีคนขับรถแท็กซี่, ผู้ประกอบการอู่แท็กซี่ และสหกรณ์แท็กซี่ รวมตัวบริเวณหน้ากระทรวงคมนาคมและทำเนียบรัฐบาลนำโดยนายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมฯ เพื่อเรียกร้องและทวงถามคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยในการนัดครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้ทำหนังสือถึงผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งเพื่อขอใช้พื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้ากระทรวงคมนาคมและบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
สำหรับข้อเรียกร้องของสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่นั้น ประกอบด้วย ขอให้ยกเลิกการร่างกฎหมายและแก้ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 อนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ป้ายดำ รับจ้างผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบอื่นใด พร้อมทั้งให้ยกร่างกฏหมายรถยนต์รับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) แก้ไข พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ให้ขยายอายุรถแท็กซี่ จากเดิม 9 ปีให้ขยายอายุเป็น 12 ปีตลอดไป
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ทบทวนประกาศกรมการขนส่งทางบก บังคับให้รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ต้องติดตั้งอุปกรณ์จีพีเอส TAXI OK ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ จากการออกกฏหมายบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.60 ที่ผ่านมา รวมถึงเรียกร้องให้ทบทวนต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ต้องแบกรับสูงขึ้น เช่น ค่าก๊าซเอ็นจีวี ควรให้คงที่ราคาไม่เกินกิโลกรัม หรือต่อลิตรละ 10 บาท
อีกทั้งยังขอให้ช่วยเหลือดอกเบี้ยรถแท็กซี่ที่มีการกำหนดดอกเบี้ยจากไฟแนนซ์ เพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการแท็กซี่ เนื่องจากในปัจจุบันดอกเบี้ยรถแท็กซี่มีการคิดแพงกว่ารถยนต์ทั่วไปถึงร้อยละ 15 ต่อปี ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่ผู้ประกอบการแท็กซี่สามารถรับได้นั้นไม่ควรเกินร้อยละ 5 ต่อปีเทียบเท่ากับรถยนต์ทั่วไป
ขณะเดียวกัน สมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ยังเรียกร้องในส่วนของค่าเบี้ยประกันรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ ประเภท 3 + พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย ให้ปรับลดลงมาเทียบเท่ากับรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากในปัจจุบันราคาจ่ายค่าประกันรถยนต์รับจ้างแท็กซี่ + พ.ร.บ.ชั้น 3 สูงถึง 17,000 บาทต่อปีต่อคัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประกอบอาชีพแท็กซี่