เคลียร์ปมเงิน 1,500 ล้านยังไม่หายมีจ่ายเบี้ยสูงอายุ-คนพิการ

สังคม
15 ก.ย. 63
10:31
2,569
Logo Thai PBS
เคลียร์ปมเงิน 1,500 ล้านยังไม่หายมีจ่ายเบี้ยสูงอายุ-คนพิการ
กรมบัญชีกลาง ชี้แจงกรณีถูกวิจารณ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ – เบี้ยความพิการล่าช้า ชี้ สถ.มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณจึงต้องตรวจสอบข้อมูลทำให้การจ่ายเงินคลาดเคลื่อน พร้อม ยืนยันเงิน 1,500 ล้านบาทไม่หายและไม่ต้องใช้เงินทดรองราชการ

วันนี้ (15 ก.ย.2563) นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง ชี้แจงกรณีที่นายชัชวาลย์ วงศ์สวรรค์ ประธานชมรมพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (แห่งประเทศไทย) โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ชมรมพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” กรณีการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการประจำเดือน ก.ย.2563 ที่เลื่อนการโอนเงินจากวันที่ 10 ก.ย. เป็นภายในเดือนก.ย.2563 ว่า หากกรมบัญชีกลางไม่มีความพร้อมในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ก็ไม่ควรโยนความผิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเสนอให้โอนหน้าที่จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการกลับมาที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดกรมบัญชีกลางไม่โอนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการให้ผู้มีสิทธิ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ กรมบัญชีกลางเคยระบุว่าหากงบประมาณไม่เพียงพอ จะนำเงินทดรองราชการฯ ที่มีวงเงิน 1,500 ล้านบาท มาสำรองจ่ายเบี้ยยังชีพ ทั้ง 2 ส่วนได้ทันที จากนั้นจึงไปเรียกเก็บคืนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทำให้มีคำถามว่าเงินทดรองราชการ 1,500 ล้านบาท หายไปไหนนั้น

โดยระบุว่า กรมบัญชีกลางและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้กำหนดปฏิทินการทำงานสำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 โดยกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการร่วมกันในแต่ละเดือน เพื่อให้สามารถจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิตามวันที่กำหนด ซึ่งการดำเนินการโอนเงินให้ผู้มีสิทธิแต่ละเดือนนั้น จะจัดสรรให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาลจำนวน 7,774 แห่ง ไม่รวม อบจ. ตามจำนวนที่ต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิครบทุกแห่ง ในการเบิกเงินแต่ละครั้ง ตามปฏิทินการทำงาน

ซึ่งตามขั้นตอนการดำเนินการ กรมบัญชีกลางจะต้องตรวจสอบงบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายให้ผู้มีสิทธิตามปฏิทินการจ่าย และเมื่อตรวจสอบงบประมาณในเดือนกันยายน 2563 พบว่าไม่เพียงพอ สถ.จึงต้องจัดสรรเพิ่ม แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงงบประมาณของ สถ.ต้องทำตามกระบวนการบริหารงบประมาณ ทำให้ระยะเวลาการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการคลาดเคลื่อนไปจากปฏิทินการทำงาน 

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรณีวงเงิน 1,500 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้มีการใช้ เนื่องจาก สถ.ได้ดำเนินกระบวนการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพียงพอเเล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทดรองราชการ สำหรับแนวทางการแก้ไขกรณีดังกล่าว ขอความร่วมมือให้พิจารณาจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีให้มีความครอบคลุมเพื่อจะจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ อย่างถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนและระยะเวลาตามที่กำหนดไว้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

คลัง-ท้องถิ่น ชี้งบฯ 64 ล่าช้า ไม่กระทบจ่ายเงินเดือน ขรก.

ใครทำสะดุด เบี้ยผู้สูงอายุ-เบี้ยความพิการ

กรมบัญชีกลาง แจ้งเลื่อนจ่ายเบี้ย "ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง