สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลภาครัฐ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมออนไลน์กับหน่วยงานภาครัฐ
โดยมีหน่วยงานร่วมลงนาม 9 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ, สมาคมธนาคารไทย ,สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ,บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด, กรมสรรพากร, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,กรมที่ดิน ,สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)
นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผอ.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการยกระดับการให้บริการประชาชน ลดภาระการติดต่อและใช้บริการภาครัฐ เพราะที่ผ่านกมาให้บริการของภาครัฐต่อภาคธุรกิจและประชาชน ต้องผ่านขั้นตอนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่ซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองเวลา และทรัพยากร ดังนั้น สพร.จึงได้วางโครงสร้างพื้นที่ฐานเพื่อสร้างระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตน หรือ Digital ID ภาครัฐ
ซึ่งหน่วยงานทั้ง 9 หน่วยงาน มีความเห็นตรงกันว่าควรพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง เพื่อให้หน่วยงานรัฐนำแพลตฟอร์มนี้ไปบริการประชาชน
น.ส.สุธีรา ศรีไพบูลย์ รักษาการประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ระบุว่า หลักการทำงานของแพลตฟอร์มนี้ เป็นเหมือนถนนที่เชื่อมบริการต่างๆ แต่ NDID ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ ไว้ ข้อมูลจะยังคงอยู่ในที่เก็บข้อมูลเดิมหรือหน่วยงานนั้น โดยประชาชนในฐานะเจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะส่งข้อมูลของตนเอง ทำให้ขั้นตอนการพิสูจน์และยืนยันตัวตน รวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัย
NDID ไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆ ไว้ ข้อมูลจะยังอยู่ในที่เก็บเดิม ประชาชนในฐานะเจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะส่งข้อมูลของตัวเอง
สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมลงนามในข้อตกลงวันนี้ หลายหน่วยงานมีความพร้อมในการทำลองใช้ Digital ID ร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ของหน่วยงาน อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งปี 2563 มีธุรกิจจดจัดตั้งใหม่ กว่า 5,667 ราย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้บริการผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด จึงมีความพร้อมที่จะประสานข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มพิสูจน์และยืนยันตัวตน
กยศ. จะนำแพลตฟอร์มนี้ไปใช้กับระบบปฏิบัติการของ กยศ. ที่ให้บริการประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ และเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูลของรัฐ ทั้ง Web Application และ Mobile Application 3 ระบบได้แก่การบริการหนี้ ระบบดำเนินคดีและบังคับคดี รวมถึงระบบการจัดการให้กู้ยืม เป็นต้น