(22 ก.ย. 2563) ทพญ.สุพัตรา เหล่าพัทรเกษม พร้อมด้วยผู้เสียหาย 10 คน จากกรณีสั่งซื้อสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนม จากร้าน CELEBRITY BRAND NAME ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์วัน หลังโอนเงินซือกระเป๋าแบรนด์เนม ตั้งแต่ราคาใบละ 3 หมื่นบาท จนถึง 2 แสนบาท แต่กลับไม่ได้รับสินค้า พอสอบถามไปยังร้านค้าก็บ่ายเบี่ยงตลอด ผู้เสียหายจึงนำหลักฐานมายื่นต่อ ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรม ในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน คาดว่ามีความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ร้านดังกล่าวเคยออกรายการโทรทัศน์และโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล มีรูปดารา คนมีชื่อเสียงจำนวนมากมารีวิว และโฆษณาว่ามีสินค้าพร้อมส่ง ทำให้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตัดสินใจซื้อกระเป๋า 2ใบ เริ่มจากราคา155,000บาท และอีกใบราคา199,000บาท และโอนเงินไปยังร้าน แต่ผ่านมากว่า 1 เดือนไม่ได้รับสินค้า บางคนผ่านมา 1 ปี ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เมื่อได้ทวงถามกลับได้รับคำตอบว่าไม่สามารถจัดหาสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อได้ ทางผู้เสียหายจึงมีความประสงค์ขอเงินคืนเต็มจำนวนตามสัญญา ปรากฏว่าทางร้านค้าบ่ายเบี่ยงในการโอนคืนยอดเต็มจำนวน
เบื้องต้นผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ณ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ,และท้องที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 50 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเป็นเงินจำนวนกว่า 5 ล้านบาท
โดยพฤติการณ์ของทางร้าน จะรับยอดเงินล่วงหน้าไปแต่เมื่อถึงเวลากลับจะคืนเงินเบื้องต้นเพียงร้อยละ 10 จากยอดชำระจริง ทำให้ผู้เสียหายมีความสงสัยว่าเงินที่เหลืออีกร้อยละ 90 หายไปไหน และเส้นทางการเงินของทางร้านหากมียอดเงินโอนเข้าทางร้านจะเบิกถอนเงินสดออกไปจริงหรือไม่อย่างไร และยังมีข้อสังเกตว่าหากมีการดำเนินธุรกิจจัดหา หรือ นำเข้าสินค้าจริงแต่เมื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องสินค้ากลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือหลักฐานการดำเนินการ เช่น ใบสั่งซื้อจาก SHOP หรือ หลักฐานการสั่งซื้อไปยังแหล่งซื้อขายที่ทางร้านได้ติดต่อประสานงานไว้
จึงต้องการให้ ปปง.ตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องกับร้านนี้ทั้งหมด และขอให้สำนักงาน ปปง. พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย
เนื่องจากในขณะนี้ทางร้านค้ายังคงลงประกาศขายสินค้าตามปกติโดยการโพสรูปลงสื่อ social media เพื่อขายสินค้า ทั้งที่ผ่านมาไม่สามารถจัดหาสินค้าให้กับลูกค้าได้จริง อีกทั้งช่วงเดือนมีนาคมที่เริ่มมีปัญหา ร้านค้ายังอ้างเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ตามแถลงการณ์ที่ได้ลงไว้หน้าเพจร้าน ซึ่งร้านทราบดีว่าสถานการณ์เช่นนั้นร้านอาจไม่สามารถจัดหาสินค้าได้ เนื่องจากสายการบินหยุดให้บริการ แต่ร้านยังโฆษณาขายสินค้า และแจ้งลูกค้าว่าจัดหาสินค้าจากยุโรป ทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถจัดหาได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย สำหรับประชาชนท่านใดที่ได้รับความเสียหายจากร้านค้านี้ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ บก.ปคบ.สายด่วน 1135
