วันนี้ (22 ก.ย.63) จากการเปิดหารือวิป 3 ฝ่าย คือ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ได้ข้อสรุปว่าการประชุมร่วมรัฐสภาในช่วงวันที่ 23 และ 24 ก.ย.นี้ แต่ละฝ่ายจะได้สิทธิ์อภิปราย 7.20 ชม.โดยเน้นที่จะอภิปรายรวมทุกญัตติและลงมติด้วยวาจารวดเดียว 6 ญัตติเช่นกัน โดยเริ่มประชุมเวลา 09.30 น.วันแรกพักการประชุมเวลา 01.30 น.วันที่ 2 จะปิดอภิปรายเวลา 18.00 น.เพื่อลงมติ
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน มั่นใจว่าที่ประชุมจะพิจารณาได้ทั้ง 6 ญัตติ โดยเฉพาะ 2 ญัตติของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และ 6 พรรคฝ่ายค้านที่สอดคล้องกันเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.และยกร่างใหม่ทั้งฉบับ จึงไม่มีเหตุผลอะไร ที่สมาชิกรัฐสภาจะไม่ให้ผ่านความเห็นชอบ
ส่วนนายวิรัช รัตนเศรฐ ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า การลงมติเห็นชอบญัตติแก้รัฐธรรมนูญ มีเงื่อนไขอยู่ที่ ส.ว.จำนวน 84 เสียง และเน้นย้ำว่าเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ที่จะอภิปรายชี้ให้เห็นถึงเหตุผลการเสนอญัตติ โดยแนวโน้มมีทั้งเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นชอบกับญัตติแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติ
สำหรับกรอบการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 45 คน จะมีสัดส่วน ส.ว.จำนวน 15 คน ส.ส. 30 คน ยึดตามสัดส่วนของแต่ละพรรค เช่นเดียวกับสัดส่วนคนนอก ให้ยึดตามโควตาของแต่ละฝ่ายไป ส่วนกรอบเวลาการทำงานในเป็นไปตามมติที่ประชุม ทั้งนี้มีรายงานว่า พรรคร่วมรัฐบาลกำหนดจะหารือกันภายใน เพื่อสรุปแนวทางการลงมติ 14.00 น.ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.63)
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ชี้แจงว่า ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องตามเงื่อนไขการเข้าชื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ของกลุ่มไอลอว์ได้ทันบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาในคราวเดียวกันนี้ได้แล้ว
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ยังแถลงเตรียมยื่นฟ้องนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เป็นเหตุให้ญัตติขอส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญของ ส.ส.ครั้งละหลายญัตติตกไปด้วย