วันนี้ (24 ก.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 2 ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. ร่วมอภิปรายญัตติแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติ อย่างเข้มขึ้น ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของผู้ชุมนุมที่ปักหลักชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา
ล่าสุด เวลา 18.14 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ต้องการเวลาพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน และ ส.ว. โดยขอเวลา 30 วัน จากนั้นจะนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับเข้ามาหารือในรัฐสภา แต่ถ้าเดินหน้าในวันนี้จะเจอทางตัน ซึ่งเดือน พ.ย.นี้ จะมีโอกาสผ่านข้อเสนอทั้ง 6 ญัตติมากกว่า
ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เสนอให้ที่ประชุมตั้ง กมธ.วิสามัญ 1 คณะ จากนั้นจึงจะพิจารณาวาระแรกในชั้นรับหลักการ เพื่อพิจารณารายละเอียดของญัตติต่างๆ ว่าจะรับหลักหรือไม่รับหลักการ

เพราะตอนนี้สมาชิกบางส่วนยังไม่เข้าใจสาระสำคัญของญัตติมากพอที่จะใช้ดุลพินิจในการออกเสียง เนื่องจากเนื้อหาแต่ละญัตติที่ส่งมามีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ 4 ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอให้มีการแก้ไขรายมาตรา ยังมีรายละเอียดที่จำเป็นต้องให้สมาชิกพิจารณาอย่างละเอียดด้วย
ก่อนที่จะมีการลงมติทั้ง 6 ญัตติ ขอให้นำข้อบังคับ 121 วรรค 3 บัญญัติว่าให้ที่ประชุมตั้งกรรมาธิการมา 1 คณะ จาก 3 ฝ่าย เพื่อจัดทำรายงานความเห็นเสนอต่อรัฐสภา
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หากรัฐสภาจะมีมติให้ตั้ง กมธ. เพื่อศึกษา 1 เดือน แล้วจึงจะนำเรื่องกลับมาลงมติในรัฐสภา ส่วนตัวเห็นว่ารัฐสภาทำได้ตามข้อบังคับ เพราะฝ่ายค้านมีเสียงไม่เพียงพอที่จะคัดค้าน
ทั้งนี้การประชุมวิป 3 ฝ่าย ไม่เคยมีการหารือกันเรื่องนี้มาก่อน และฝ่ายค้านไว้วางใจรัฐบาลมาโดยตลอด เมื่อสมาชิกเสนอให้ตั้ง กมธ. และเลื่อนลงมติ จึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก และยิ่งตอกย้ำข้อครหาว่ามีการเตะถ่วงหรือซื้อเวลาแก้รัฐธรรมนูญ