วันนี้ (29 ก.ย.2563) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 29 กันยายน 2563
เมื่อวานติดเพิ่มไปอีก 221,413 คน
รวมแล้วตอนนี้ 33,495,040 คน ยอดตายรวม 1,005,094 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 30,391 คน รวม 7,349,607 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 69,671 คน รวม 6,143,019 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 16,018 คน รวม 4,748,327 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,135 คน รวม 1,159,573 คน เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องกันถึง 16 วันแล้ว
อันดับ 5-10 แต่ละประเทศยังคงลำดับเดิม โคลอมเบีย เปรู เม็กซิโก สเปน อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ ติดกันเกือบพันถึงหมื่นกว่าคนต่อวัน
หลายประเทศในยุโรป ทั้งฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายพันอย่างต่อเนื่อง
ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเมียนมาร์ ติดเพิ่มกันหลักร้อยถึงหลายร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และฮ่องกงติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่เวียดนาม และออสเตรเลียก็ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังรุนแรงต่อเนื่อง ติดเพิ่มไปอีกถึง 897 คน ตายเพิ่มอีก 30 คน ตอนนี้ยอดรวมถึง 11,631 คน ตายไปมากถึง 256 คน อัตราตายตอนนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 2.2 % แล้ว ยอดรวมแซงมาเลเซียไปเรียบร้อยแล้ว
หากดูจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเมียนมาร์ตอนนี้ มากกว่าประเทศข้างเคียงอย่างไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม รวมกันเกือบสามเท่า เชื่อว่าเราทุกคนคงเอาใจช่วยให้เมียนมาร์ควบคุมโรคได้โดยเร็ว
ถ้าวิเคราะห์ความเสี่ยงของไทยเรา ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า คงจะคุมได้ลำบากครับ เพราะประกาศเรื่องการเดินทางของคนต่างชาติไปแล้วเมื่อวานนี้ และเห็นว่าจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนนี้ (ก.ย.) เป็นต้นไป
ถัดจากนี้ไป พฤติกรรมที่เราทุกคนที่รักตัวเอง รักครอบครัว และรักประเทศชาติควรทำอย่างที่สุดคือ “การใส่หน้ากาก” ครับ
ไม่ว่าคุณจะไปเจอคนที่รู้จักมักคุ้นเพียงใด ใส่ไว้ก่อนจะดีที่สุด
หลายคนไปเป็นวิทยากร ขึ้นเวทีประชุม เสวนาแบบเป็นหมู่คณะ ก็ควรใส่หน้ากากเช่นกัน พอถึงคิวที่จะพูดก็ค่อยถอดหน้ากากออก พูดเสร็จหลังจากจับไมค์ก็ควรล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่พกติดตัวไว้
ไปกินอาหารที่ใด หากไม่ใช่ที่โล่งลมโกรกแล้ว ก็ขอให้ใช้เวลาสั้นๆ
โดยสารรถสาธารณะ...จำเป็นต้องใส่หน้ากากเสมอ
หน้ากากนั้นจะเป็นหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยก็ได้ครับ
อีกอย่างสุดท้ายที่ควรทำคือ “การคอยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว”หากไม่สบาย มีไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล มีเสมหะ ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ หรือท้องเสีย ขอให้หยุดงาน หยุดเรียน และรีบไปตรวจ
จากตาหมากบนกระดานที่มี...ตาเดินที่เรามีคือสองเรื่องนี้
ด้วยรักต่อทุกคน
อย่างไรก็ตาม วันที่ 28 ก.ย.นพ.ธีระ ระบุว่า
แผนการใช้ชีวิตสำหรับประชาชนคนบ้านๆ อย่างผม คาดว่าจะมีเวลาเที่ยวอย่างมีสติได้อีกราว 2-4 สัปดาห์
ไปตัดผม ทำฟัน ช่วงตุลาคม
ต้นพฤศจิกายน ซื้อหรือเบิกยา สำหรับโรคเรื้อรังทำ นัดยาว 6 เดือน
งานจะเห็นชัดตั้งแต่กลางพฤศจิกายน
งานยุ่งน่าจะกลางธันวาคมเป็นต้นไป คริสตมาสและปีใหม่คงต้องสั่งขนมเค้กมาฉลองที่บ้าน
อดทน อดกลั้น อดออม และพอเพียง
ป.ล. ตารางเวลา "อาจเลื่อนไปได้บ้าง" หากไม่มาตามนัดหมายหรือมาแบบกระเส็นกระสาย