ผบ.ตร.แถลง 8 เหตุผล "น้องชมพู่" ถูกทำให้ตาย

อาชญากรรม
2 ต.ค. 63
14:20
8,395
Logo Thai PBS
ผบ.ตร.แถลง 8 เหตุผล "น้องชมพู่" ถูกทำให้ตาย
ผบ.ตร.แถลงคดีการพบร่างของ ด.ญ.ชมพู่ บนภูเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร พร้อมแถลง 8 เหตุผล ยืนยันน้องชมพู่ขึ้นภูเหล็กไฟไม่ได้ มีคนพาขึ้นไปทำให้ถึงแก่ความตายไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม ทั้งนี้ ผบ.ตร.ไม่เปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยคือใคร

วันนี้ (2 ต.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และคณะแถลงความคืบหน้า "คดีน้องชมพู่" ณ สโมสรตำรวจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนคดีดังกล่าว ระบุว่า ได้สืบสวนและหาหลักฐานในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่เป็นจำนวนมาก โดยสอบปากคำพยานจำนวน 384 ปาก ผู้เชี่ยวชาญ 13 ปาก วัตถุพยาน 113 ชิ้น เก็บดีเอ็นเอบุคคลต้องสงสัยจำนวน 154 ตัวอย่าง เก็บวัตถุพยานที่สำคัญจำนวน 113 ชิ้น และจากการสืบสวนยืนยัน ด้วยเหตุผล 8 ประการ พบว่า น้องชมพู่ไม่สามารถขึ้นไปบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเองจึงเชื่อได้ว่ามีผู้พาน้องชมพูไปและทำให้ถึงแก่ความตายไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม ดังนี้ 

1.เส้นทางที่ยากลำบากจนไม่สามารถเดินไปได้ โดยเส้นทางที่สามารถเดินเท้าขึ้นไปได้จนถึงจุดพบศพมีจำนวน 4 เส้นทาง มีอุปสรรคเป็นเนินหินชั้นที่มีความชั้นมากกว่า 60 องศา กว้างกั้นอยู่ในทุกเส้นทาง เกินความสามารถของน้องชมพู่ เพราะน้องชมพู่ยังไม่สามารถขึ้นบันไดที่บ้านได้ ซึ่งบันไดที่บ้านมีความชั้นเพียง 45 องศา

2.พลังงานไม่เพียงพอ นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา มีความเห็นสอดคล้องกันว่า อาหารเช้ามื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานเข้าไปมีเพียงไข่เจียว 3 คำ และน้ำส้ม 1 ขวด ไม่สามารถให้พลังงานได้เพียงพอที่จะเดินไปถึงจุดพบศพเองได้

3.ประสบการณ์ชาวบ้าน ซึ่งได้ให้การสอดคล้องกันว่า เด็กอายุ 3 ขวบไม่สามารถเดินไปด้วยตนเองได้ ซึ่งหากหลงทางอาจสามารถปีนป่ายได้เพียงบริเวณชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น

4.กรณีศึกษาจากการหายตัวไปของ นางทินระยะทางที่พลัดหลงมีระยะทางเป็น 2 เท่าของกรณีน้องชมพู ชาวบ้านยังสามารถหาเจอได้ ภายในคืนเดียว

5.ผู้ชำนาญการยืนยันโดยแพทย์นิติเวชได้เดินสำรวจเส้นทางจากบ้านไปยังจุดพบศพบนภูเหล็กไฟ มีความเห็นว่า เด็กอายุ 3 ขวบไม่สามารถเดินไปยังจุดพบศพได้และกุมารแพทย์ให้ความเห็นเชิงวิชาการว่า เด็กอายุประมาณ 3 ขวบ แม้เดินออกจากบ้านในระยะ 200 ม.ยังสามารถเห็นตัวบ้านเพราะเป็นที่ราบจึงไม่น่าหลงทางได้ อีกทั้งพัฒนาการของเด็กในช่วง 3 ขวบไม่สามารถเดินไปยังจุดพบศพได้ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นแพทย์ชันสูตร

6.สภาพศพในวันที่พบศพมีสภาพเปลือยกาย ซึ่งบิดามารดายืนยันว่า น้องชมพู่ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้

7.พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเส้นผม 36 เส้น ตกอยู่บริเวณข้างศพจากการตรวจพิสูจน์พบว่า เป็นเส้นผมของน้องชมพู่เองเกิดจากการตัดหรือเฉือนด้วยมีด น่าเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่นเนื่องจากน้องชมพูไม่สามารถตัดผมตัวเองได้

8. นิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่ กลัวที่สูง กลัวที่มืด กลัวป่า กลัวสวนยางพารา พฤติกรรมที่ผ่านมาของน้องชมพู่ไม่เคยไปเล่นไกลบ้าน ไม่เคยไปเล่นในป่า ไม่เคยไปเล่นบนภูเหล็กไฟ ซึ่งพ่อแม่ก็ไม่เคยพาน้องชมพู่ขึ้นไปบนภูดังกล่าว จากการสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่า น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพด้วยตัวเอง จึงเชื่อได้ว่ามีคนพาน้องชมพู่ไปและทำให้ถึงแก่ความตายไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม

พล.ต.อ.สุวัฒฯ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ตั้งไว้ 2 ข้อหาคือ 1.พรากเด็กและกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและ 2.เคลื่อนย้ายอำพรางศพ  ทั้งนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดใครได้ วันนี้จำเป็นต้องทำคดีเพิ่มเติมคดีดังกล่าวอายุความ 20 ปี และถ้ามีพยานหลักฐานที่สามารถดำเนิคดีกับใครได้ก็จะทำไปเท่าที่จะแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมได้

ผบ.ตร.ระบุว่า ยืนยันดำเนินการตามมาตรการขอให้มั่นใจแม้ว่าจะดูว่าวันนี้ยังตอบคำถามไม่ได้ว่า บุคคใดคือผู้ก่อเหตุยืนยันว่า ยังไม่ลดละเลิกความพยายามและทำตามกฎกติกา ไม่มีนอกเหนือไปจากนี้

 

ผบ.ตร. ยังระบุว่า คำถามว่าน้องชมพู่เสียชีวิตเมื่อใด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า 1.เวลาที่เกิดเหตุระหว่าง 09.11 - 09.45 น. อ้างอิงเวลาที่น้องชมพู่ใช้โน้ตบุ๊กและใช้โทรศัพท์ 2.แพทย์ประเมินสภาพของศพพบสภาพภายในเริ่มเน่าและพบหนอนในวันที่ 12 พ.ค. - 13 พ.ค.เวลา 14.00 น. - 13.30 น. และหนอนที่อยู่ในศพในวันที่แพทย์ผ่าชันสูตรในวันที่ 15 พ.ค. แพทย์ระบุว่าหนอนอยู่ในระยะที่ 3 หรือเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน และจากการทดลองการเน่าของเนื้อหมูพบเนื้อเน่าเร็วกว่าด้านล่างเพราะอากาศบนภูร้อนกว่าด้านล่าง จึงคาดว่า น้องชมพู่เสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 12 พ.ค. - หรือในช่วงบ่ายวันที่ 13 พ.ค.หรือในช่วงเวลา 24 ชม.

3.พบร่องรอยบาดแผลหลายจุดแต่ไม่มีแผลใดที่ทำให้เสียชีวิต และไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ และคาดว่าจะเสียชีวิต จากการขาดน้ำและอาหารเพราะไม่พบอาหารในลำไส้และของเหลวในกระเพาะอาหารไม่ยืนยันว่าเป็นอาหาร

ผบ.ตร.ยังกล่าวว่า มีบุคคลต้องสงสัยแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ การใช้เวลาในการสืบสวนคดีระยะเวลากว่า 4 เดือน ถือว่าไม่นาน และคดีนี้ทำงานยากเนื่องจากมีการสร้างกระแสและยืนยันว่าจะไม่เลิกการทำคดีแม้ว่าคดีจะมีความยาก และหากมีพยานหลักฐานเพียงพอจะดำเนินการจับผู้ก่อเหตุแล้ว

เราทำงานต้องเชื่อมั่น ทำงานแล้วต้องมั่นใจว่าหากสั่งฟ้องศาลจะพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดได้ ขอให้คนร้ายที่ฟังอยู่นอนเครียดต่อไปเพราะเรายังไม่เลิกทำคดี การสืบสวนยังไม่เลิก สามารถทำได้จนถึงอายุความ 20 ปี    

ทั้งนี้ น้องชมพู่ได้หายตัวปริศนา ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 โดยมีผู้พบศพของ ด.ญ.ชมพู่ บนเขาภูเหล็กไฟ ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งตำรวจได้ติดตามทำคดีต่อเนื่องนานกว่า 144 วัน 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง