เตือน 26 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมจากพิษ "ดีเปรสชัน" 7-9 ต.ค.นี้

ภัยพิบัติ
7 ต.ค. 63
10:39
12,340
Logo Thai PBS
เตือน 26 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมจากพิษ "ดีเปรสชัน" 7-9 ต.ค.นี้
กอนช.เตือน 26 จังหวัดที่แนวดีเปรสชัน จากเวียดนาม และจะเข้าอ่าวไทยตอนบนเสี่ยงต่อสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนัก-น้ำล้นตลิ่งช่วงวันที่ 7-9 ต.ค.นี้ั โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำซ้ำซาก มีสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ ส่วนเขื่อนขุนด่าน และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลมีน้ำมากกว่า 90%

วันนี้ (7 ต.ค.2563) นายสำเริง แสงภู่วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ฉบับที่ 9 หลังกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศพบหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชัน และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้ วันที่ 7 ต.ค.นี้ จากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกมายังบริเวณอ่าวไทยตอนบนวันที่ 8 ต.ค. ทำให้ช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันตก และภาคใต้

เบื้องต้นได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (One Map) พบมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำช่วงวันที่ 7–12 ต.ค.นี้ คือ เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในพื้นที่ภาคเหนือ บริเวณจ.เชียงราย เชียงใหม่  แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์  เพชรบูรณ์  และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณชัยภูมิ  เลย ขอนแก่น และนครราชสีมา

เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง

ภาคตะวันออก บริเวณจ.ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว ชลบุรี และระยอง ภาคตะวันตก บริเวณราชบุรีกาญจนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ บริเวณจ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสตูลโดยเฉพาะเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำป่าสัก จ.เพชรบูรณ์  บริเวณลำตะคอง ลำน้ำมูล  และลำปลายมาศ จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ กอนช.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง หรือพื้นที่เสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก และมีสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ ควบคู่กับประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ

พร้อมพิจารณาความเหมาะสมการบริหารน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 90% หรือเกินเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล จ.นครนายก และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลจ.ระยอง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ รวมทั้ง เตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อเป็นแก้มลิงในการหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลากด้วย

 

กทม.พร่องน้ำในคลองสายหลักรับฝนตกหนัก

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.กำชับทุกหน่วยงาน ทั้งสำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนัก รวมถึงการติดตามรายงานจากศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม

นอกจากนี้ให้สำนักการระบายน้ำ ลดระดับน้ำในคลอง แก้มลิง บ่อสูบเพื่อเตรียมรองรับน้ำฝน เตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำจุดเสี่ยงน้ำท่วม สำรวจและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ตลอดจนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่กำลังก่อสร้าง

เช่น กรมทางหลวง และ รฟม.ทั้ง 6 สาย ผู้รับผิดชอบและผู้รับจ้างของโครงการ เพื่อให้สำรวจและกำจัด สิ่งกีดขวางทางน้ำ อุดตันท่อหรือทางระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายได้อย่างคล่องตัว

สำหรับการลดระดับน้ำในคลองสายหลัก ให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ฝนตกหนัก ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในคลองสายหลัก ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสาร เช่นเรือโดยสารในคลองแสนแสบ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง