ร้อง DSI ตรวจสอบหลอกลงทุนข้าวกอระ เสียหายพันล้านบาท

อาชญากรรม
13 ต.ค. 63
15:44
791
Logo Thai PBS
ร้อง DSI  ตรวจสอบหลอกลงทุนข้าวกอระ เสียหายพันล้านบาท
ข้าราชการเกษียณ ร้อง DSI เร่งตรวจสอบบริษัทมหาชน ชวนลงทุนซื้อข้าวกอระข้าวหอมมะลิ จ.ร้อยเอ็ดอ้างให้ผลตอบแทนสูง รวมความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

วันนี้ (13 ต.ค.2563) น.ส.กฤอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งองค์กรต่อต้านแชร์ลูกโซ่ พร้อมผู้เสียหายกว่า 30 คน เข้าร้องทุกข์ต่อ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ

เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทมหาชนและบริษัทในเครือ ที่มีพฤติกรรมชักชวนให้ลงทุนซื้อข้าวสารกอระหรือข้าวหอมมะลิออร์แกนิคและอาหารเสริม แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับเงินปันผมตามที่ตกลงไว้ ที่ผ่านมาทางบริษัทบอกว่าจะนัดคืนเงิน แต่เลื่อนมาโดยตลอด


นางปุณยนุช (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้เสียหายจาก จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ครอบครัวมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และเห็นว่าบริษัทมหาชน ชักชวนให้ลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยมีผลกำไรในการลงทุนที่ดี

ประกอบกับมีการโฆษณาผ่านรายการโทรทัศน์ ทำให้เกิดความมั่นใจและหลงเชื่อ จึงนำโฉนดที่ดินไปจำนองและนำเงินมาลงทุนจำนวน 160,000 บาท

แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับเงินปันผลตามที่บริษัทเชิญชวนแต่อย่างใด ทำให้ตอนนี้อยู่ในสภาวะเครียด เพราะไม่มีเงินไปไถ่ถอนที่ดิน ซึ่งกำลังจะถูกยึด จึงอยากให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งตรวจสอบบริษัทและผู้บริหารทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา เคยมีกลุ่มผู้เสียหายหลายจังหวัดออกมาร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมกาiคุ้มครองผู้บริโภค และตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค รวมถึงล่าสุดผู้เสียหายบางส่วนได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด


ด้านนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ  และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า บริษัทแห่งนี้เคยมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว ขั้นตอนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัทมหาชน และรับปากกับผู้ร้องว่า ดีเอสไอ จะดำเนินการให้ทันที โดยจะออกหมายเชิญผู้บริหารบริษัทดังกล่าวเข้ามาชี้แจง และจะให้หยุดการโฆษณาการขาย เพราะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

รวมทั้งจะให้พนักงานสอบสวนประสานงานกับสคบ.เพื่อดูว่า บริษัทได้ทำตามแนวทางของธุรกิจขายตรงหรือไม่ หากไม่ตรงก็สามารถยกเลิกเพิกถอนใบอนุญาตได้ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอการชี้แจงจากทางบริษัท เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย


ที่ผ่านมาสำหรับผู้ที่หลงเชื่อร่วมลงทุนกับบริษัทมหาชนแห่งนี้ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจทั่วประเทศแล้วกว่า 40 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้มีข้อมูลว่าผู้เสียหายบางส่วนเข้าไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เบื้องต้นมีการไกล่เกลี่ยระหว่างตัวแทนบริษัทและผู้เสียหายประมาณ 8 คน โดยทางบริษัทอ้างว่าจะคืนเงินให้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ เป็นเงินประมาณ 700,000 บาท  สำหรับประชาชนท่านใดที่ได้รับความเสียหายจากรณีดังกล่าว สามารถร้องทุกข์แจ้งความได้ดีเอสไอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง