วันนี้ (14 ต.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผ่านมาครึ่งวันการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ รอบพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่มมีความเคลื่อนไหวขึ้น เมื่อการ์ดผู้ชุมนุมตั้งแถวเรียงเป็นหน้ากระดาน รวมทั้งมีการแบ่งเวทีปราศรัยบนรถเคลื่อนที่ 3 คัน โดยรถปราศรัยคันหน้าสุดได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมอยู่บริเวณหลังแนวการ์ดและให้นั่งลงกับพื้น
ขณะที่ตำรวจได้คล้องแขนกันเรียงหน้ากระดาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมขวางบริเวณถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าสู่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ปรากฎว่าได้มีการปรับขบวนแถวขนานไปกับถนนราชดำเนิน
จากนั้นในเวลา 13.05 น. เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร กับกลุ่มคนใส่เสื้อสีเหลือง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าห้ามเพื่อไม่ให้มีการปะทะ แต่ปรากฎว่ายังมีการขว้างปาสิ่งของไปมาระหว่าง 2 ฝั่ง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถขยายเสียงประกาศขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ
เวลา 13.10 น. การ์ดของคณะราษฎร ได้เริ่มตั้งขบวนถอยร่นออกมาจากตำรวจ เพื่อจะเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผุ้ชุมนุม ขณะที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เข้าประจำจุด หลังแนวกั้นบริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งเป็นจุดรอยต่อถนนราชดำเนินนอกที่จะมุ่งหน้าสู่สะพานมัฆวานรังสรรค์
เวลา 13.14 นายอานนท์ ประกาศเตือนกลุ่มคณะราษฎร ขออย่าฟังเสียงการยัวยุของกลุ่มอื่นๆ และยืนยันว่าจะไม่ให้กระทบการจราจรในช่วงเวลาที่จะมีขบวนเสด็จฯ
เวลา 13.20 น. ตำรวจขอให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายไม่ก่อความขัดแย้ง เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเส้นทางขบวนเสด็จฯ
เวลา 13.21 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแนวกั้นผู้ชุมนุมที่ใส่เสื้อสีเหลือง บริเวณฟุตบาทหน้าเมธาวลัย และนำกำลังมาเสริมกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร
เวลา 13.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร เข้าไปภายในอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมยืนล้อมรอบ ถ่ายรูป ชูธง และชู 3 นิ้วแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่โดยรอบมีผู้ชุมนุมบางส่วนขนย้ายต้นไม้ออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปบนทางเท้า พร้อมระบุว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของประชาชนให้สามารถเข้ามาเดินได้ เป็นการทวงคืนพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
