THE EXIT : คดี 4 ศพดงมะไฟ

อาชญากรรม
19 ต.ค. 63
20:10
668
Logo Thai PBS
THE EXIT : คดี 4 ศพดงมะไฟ
THE EXIT ตรวจสอบการต่อสู้ของกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเหล่าใหญ่ - ผาจันได เพื่อคัดค้านเหมืองหินปูน ต้องแลกกับชีวิตของแกนนำ 2 คนในปี 2542 จนถึงขณะนี้ชาวบ้านยังไม่ได้รับคำตอบ แต่มีข้อมูลใหม่ที่เป็นความหวังอีกครั้งผลการสอบสวนเมื่อ 21 ปี

แม้เสียชีวิตมานาน 21 ปี แต่ครอบครัวยังเลือกที่จะเก็บศพนายทองม้วน คำแจ่ม อดีตกำนันตำบลดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภูไว้ที่ป่าช้าชุมชน ขณะที่ศพของนายสม หอมพรมมา เพื่อนสนิทของนายทองม้วนที่ถูกลอบสังหารด้วยอาวุธสงครามพร้อมกันเมื่อปี 2542 ถูกฌาปนกิจไปแล้ว จนถึงวันนี้ ตำรวจยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้

นายทองม้วน เคยเป็นแกนนำคัดค้านเหมืองและโรงโม่หินปูนบนภูผารวก ซึ่งประทานบัตรหมดอายุไปเมือวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา นางสอน ในฐานะภรรยา และแม่ของลูกนายทองม้วน ตั้งใจว่าจะไม่ฌาปนกิจศพนายทองม้วน จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม

 

นางสอน บอกว่า สิ่งที่ครอบครัวเสียใจที่สุด คือผลการสอบสวนที่ชี้ว่า นายทองม้วนกับนายสม อาจเสียชีวิตเพราะขัดแย้งเรื่องค้ายาบ้า ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งเรื่องเหมือง ทั้งที่ประวัติของนายทองม้วนและนายสมที่ผ่านมา ไม่เคยมียาบ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

 เขาใส่ความมา เรื่องพวกนี้อยากให้ชาวบ้านเห็นว่าเราถูกข่มขู่ ถูกฆ่า และอยากให้คนไกลรู้

นายสุวรรณ สุดแสวง อดีตประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม.ระดับอำเภอ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งร่วมชันสูตรพลิกศพนายทองม้วน กับนายสม ร่วมกับแพทย์ประจำโรงพยาบาลสุวรรณคูหา ยังจำสภาพศพ และที่เกิดเหตุได้ชัดเจน

เขายืนยันว่า ไม่พบยาเสพติดในศพของทั้งคู่โดยเฉพาะศพนายทองม้วน พบแค่ยาแก้ท้องอืด ที่เขาเป็นผู้สั่งจ่ายยาให้เท่านั้น

ไปดูในกระเป๋าทุกอย่าง สายนาฬิกาก็ขาดถูกปืน และปืนเก่าติดอยู่ที่เอว มีลูกปืนคาอยู่ และยังมียาแก้ท้องอืดในกระเป๋าที่จัดให้พร้อมกันเงินแค่ 24 บาท ผมเป็นคนนับให้ภรรยาเขา

 

รายงานการสอบสวนคดีเมื่อปี 2542 ระบุบันทึกคำให้การของนายสุวรรณ สุดแสวง และนายแสวง ศรีบุญเรื่อง อดีตแกนนำค้านเหมืองรุ่นแรง พร้อมกับพยานอีก 8 คน ปรากฏข้อความลักษณะเดียวกันว่า พยาน ไม่เห็นเหตุการณ์ มาทราบเรื่องภายหลังที่มาพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากถูกนายอวยชัย วะทากับพวกอ้างเป็นพยานโดยตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจการของ อบต.ดงมะไฟ

จากการพูดคุยกับนายสุวรรณ และนายแสวง ทั้งคู่ยืนยันว่า บันทึกของพนักงานสอบสวน ไม่ถูกต้องครบถ้วน

เชิญพนักงานสอบสวนมา 7-8 คนมาร่วมตรวจสอบ เขาถามคำถามแค่ว่าเกิดที่ไหน ตำบลไหน เดือนไหน พ่อแม่ชื่ออะไร แต่ทำไม่ไม่สอบเลยว่ากำนันตายเพราะสาเหตุอะไร

ส่วนนายสุวรรณ กล่าวว่า บันทึกไว้หมดถามผมหลายนาที แต่บันทึกแค่ 4-5 บันทัดเป็นไปไม่ได้ 

 

12 ต.ค.2563 นางสอน คำแจ่ม พร้อมกับกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เดินทางไปสถานีตำรวจภูธรสุวรรณคูหา เพื่อยื่นหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอเอกสารเกี่ยวกับคดีลอบสังหารนายทองม้วน และนายสม หลังจากพบความเคลือบแคลงหลายประการในสำเนาเอกสารรายงานการสอบสวนคดีที่อาจทำให้อัยการจังหวัดหนองบัวลำภูในขณะนั้น สั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหา

พ.ต.ท.โทปรีดา สุดชา รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสุวรรณคูหา เป็นตัวแทนรับหนังสือของชาวบ้าน โดยรับปากว่า จะนำข้อเรียกร้องทั้งหมดนำเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูง

เข้าใจในหนังสือร้องเรียนในประเด็นต่างๆ ต้องส่งเรื่องให้กับผบ.ตร.ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งย่างไร จะให้รื้อคดีหรือไม่ แต่พร้อมให้ความเป็นธรรมเต็มที่  

 

 

สองเดือนมาแล้วที่เครือข่ายอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ - ผาจันได ปักหลักปิดทางเข้าเหมือง โดยล่าสุด พวกเขาประกาศปักหลักชุมชนต่อเนื่องอีก 1 ปี เพื่อผลักดันแผนฟื้นฟูเหมืองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

มีข้อมูลว่า ขณะนี้เอกชนกำลังขอให้นายกองค์การบริหารส่วนตำรวจดงมะไฟ เสนอญัตติให้ประชุมสภา อบต.ดงมะไฟ พิจารณาอนุญาตเข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลางเพื่อทำเหมืองหินปูนต่อ หลังจาก ประทานบัตรหมดอายุลงเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง