รัฐบาลรับมือประชุมสภา ไม่ประชุมลับ-ไม่ประท้วง-ห้ามใช้เอกสิทธิ์

การเมือง
25 ต.ค. 63
13:54
2,649
Logo Thai PBS
รัฐบาลรับมือประชุมสภา ไม่ประชุมลับ-ไม่ประท้วง-ห้ามใช้เอกสิทธิ์
รัฐบาลเตรียม รัฐมนตรี -ส.ส. ชี้แจงประชุมร่วมรัฐสภา อภิปรายทั่วไป 26-27 ต.ค. ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันจะไม่เปิดประชุมลับ-ไม่ประท้วง หมอชลน่านชี้รัฐบาลแค่หวังฟอกตัว โยนการบริหารประเทศล้มเหลวให้ม็อบ และขยายความขัดแย้ง

วันนี้ (25 ต.ค.2563) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 ในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อม และได้เตรียมบุคคลที่จะร่วมชี้แจง ไว้แล้วบางส่วน

ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลใจเกี่ยวกับการอภิปรายฯ พาดพิงสถาบัน นายวิรัชกล่าวว่า ระหว่างการประชุมฯ จะไม่เปิดให้ประชุมลับ และไม่มีการประท้วง ให้ผู้อภิปรายเป็นผู้รับผิดชอบเอง ต้องเชื่อใจ เพราะสมาชิกรัฐสภา แต่ละคนมีวุฒิภาวะ ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ ไม่คิดทำผิดกฎหมาย รัฐบาลไม่คิดจะมีการตัดบท หากฝ่ายค้านจะพูดอะไรก็เชิญ ก็ต้องรับผิดชอบไป จะมาอ้างเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ได้

หากฝ่ายค้านคับข้องใจในส่วนไหน ให้สอบถามได้ตามญัตติที่รัฐบาลยื่นขอเปิดอภิปรายฯ ไว้ 3 ข้อ ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 น้ำท่วมในหลายพื้นที่และเรื่องการขัดขวางขบวนเสด็จฯ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง และเป็นเหตุการณ์ของการชุมนุมในขณะนี้

สำหรับการเตรียมการชี้แจงในส่วนของรัฐบาล รายงานข่าวระบุว่า ได้ประสานงานไปยังพรรคร่วมรัฐบาลแล้วว่า หากเนื้อหาการอภิปรายเกี่ยวกับรัฐมนตรีคนไหน ให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบลุกขึ้นชี้แจง นอกจากนี้ ส.ส.ทุกคน เตรียมความพร้อมในป้องกันการอภิปรายพาดพิงสถาบันฯ หากอภิปรายหมิ่นเหม่ ให้รีบประท้วง และช่วยกันชี้แจงทันที

ส่วนท่าทีของฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แทบไม่หวังอะไรกับการอภิปรายฯ ครั้งนี้ ตั้งแต่เห็นญัตติที่ ครม.เสนอมา โดยเฉพาะเนื้อหาที่เขียนไปทำนองว่า ปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นจากคนมาชุมนุม กลายเป็นปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้เกิดขึ้นจากการบริหารงานของคณะรัฐมนตรี

ถ้าดูตามเนื้อหาในญัตติแล้วเหมือนกับการไปฟอกขาว เพราะว่า เวลาที่จะอภิปรายมาทั้งหมด 23 ชั่วโมง แต่ฝ่ายค้านได้เพียง 8 ชั่วโมง ครม. 5 ชั่วโมง ส.ว. 5 ชั่วโมง รัฐบาล 5 ชั่วโมง นั่นเท่ากับว่า 15 ต่อ 8 ชั่วโมง
เมื่อบอกว่า การชุมนุมคือปัญหาของการบริหารราชการแผ่นดิน แสดงว่าการบริหารงานของคุณ ไม่สามารถแก้ปัญหาการชุมนุมได้ แต่กลายเป็นว่า ปัญหาขณะนี้เกิดจากผู้ชุมนุมไปรบกวนขบวนเสด็จฯ ไปขยายความขัดแย้ง ว่าผู้ชุมนุมทำให้ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง

นพ.ชลน่านกล่าวด้วยว่า การสืบทอดอำนาจของคสช. เป็นมูลเหตุของปัญหาทั้งหมด ตั้งแต่การทำรัฐธรรมนูญที่มารองรับการสืบทอดอำนาจ และทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์และไม่ยุติธรรม

มีการจัดการกลไกต่างๆ เพื่อที่จะได้ส.ส.และคะแนนเสียงที่มาก เพื่อเข้าสู่อำนาจที่ไม่ชอบธรรม แต่งตั้ง ส.ว. จากตัวเองเพื่อมาเลือกนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ดังนั้นการแก้ปัญหาในครั้งนี้ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ นายกฯต้องลาออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง