จับตา 3 หัวข้อ ประชุมสภาสมัยวิสามัญ 26-27 ต.ค.นี้

การเมือง
26 ต.ค. 63
06:57
4,590
Logo Thai PBS
จับตา 3 หัวข้อ ประชุมสภาสมัยวิสามัญ 26-27 ต.ค.นี้
การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 26-27 ต.ค.นี้ ครม.อ้างอิงวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา 3 เรื่อง แต่เกิดคำถามถึงผลลัพธ์ของหาทางออกร่วมกัน เพราะประเด็นไม่สอดคล้องข้อรียกร้องผู้ชุมนุม-ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน

วันนี้ (26 ต.ค.2563) ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในที่ประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 ที่ ครม. เสนอเปิดรับฟังความเห็นจาก ส.ส. และ ส.ว. กรณีปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน อ้างอิงไว้ 3 เรื่องสำคัญต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แก่

  • สถานการณ์ที่สืบเนื่องจากการแพร่ระบาด COVID-19 และเหตุที่มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองในหลายพื้นที่ ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด เกิดความแออัดในลักษณะประชิดตัว กลายเป็นข้อกังวลของฝ่ายสาธารณสุข อาจเกิดการแพร่กระจายของโรค หากขาดความระมัดระวังในมาตรการป้องกันตัว สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดรอบใหม่ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ในระหว่างที่ประเทศอยู่ในช่วงเปิดรับการท่องเที่ยว
  • เหตุการณ์ผู้ชุมนุมบางส่วนกับขบวนเสด็จพระราชดำเนิน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2563 กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพฯ
  • ครม.อ้างอิงเหตุขอคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณสี่แยกปทุมวัน เมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค. ด้วยการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง และการนัดหมายชุมนุมต่อเนื่องในหลายสถานที่ แม้ภาพรวมจะเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย แต่บางพื้นที่ยังพบการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ประกอบกับข้อกังวลในการสร้างความวุ่นวาย หรือเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ชุมนุมต่างกลุ่ม อันเป็นเหตุให้เกิดการจราจลในบ้านเมือง

เมื่อพิจารณาจากญัตติแล้ว พบว่าเจตจำนงค์ของ ครม.ส่วนหนึ่ง อาจสอดรับกับความเห็นของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ในประเด็นการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมการชุมนุม การขอคืนพื้นที่ด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า จะสามารถอภิปรายพาดพิงถึงสถาบันได้หรือไม่ กลายเป็นข้อกังวลเรื่องกระทำการผิดข้อบังคับการประชุม

ด้วยเหตุผลตามญัตติ หรือหมายถึงกรอบในการอภิปรายตลอด 2 วัน ไม่ได้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งหมายถึงการลาออกของนายกรัฐมนตรี การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการหยุดคุกคามประชาชน จึงกลายเป็นข้อสังเกตถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นว่าจะเป็นทางออกของสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองได้หรือไม่

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง