วันนี้ (26 ต.ค.2563) ที่แยกสามย่าน ถ.พระราม 4 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนเริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย ถ.สาทร พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำที่ถูกจับกุม
ต่อมาเวลา 18.05 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนถึงแยกอังรีดูนังต์ ขณะที่ตำรวจให้เบี่ยงขบวนไปใช้ถนนฝั่งมุ่งหน้าสามย่าน แทนเส้นที่มุ่งหน้าแยกศาลาแดง ป้องกันเสียงรบกวนโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
สำหรับแกนนำที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ เช่น น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด นายธัชพงศ์ แกดํา หรือบอย ซึ่งมีการปราศรัยโจมตีการทำงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ
ก่อนหน้านี้ ตำรวจนครบาลประกาศให้มวลชนยุติการชุมนุมที่แยกสามย่าน ถ.พระราม 4 ในเวลา 17.30 น. เนื่องจากไม่ได้แจ้งขออนุญาตภายใน 24 ชั่วโมง
จัดกำลังดูแล 6 กองร้อย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า กรณีกลุ่มคณะราษฎร 2563 จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย เบื้องต้นตำรวจได้ประสานกับเจ้าหน้าที่เอกอัครราชทูตฯ เพื่อรับหนังสือแล้ว และขอความร่วมมือกับตัวแทนกลุ่มคณะราษฎร ให้จัดตัวแทน 3 คนเพื่อยื่นหนังสือ รวมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชนเคลื่อนไหวด้วยความสันติวิธี
ส่วนบริเวณหน้าเอกอัครราชทูตฯ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ดูแลมาตราการความปลอดภัยในพื้นที่ เบื้องต้นมีกำลังตำรวจตระเวนชายแดน 6 กองร้อย โดยจะสับเปลี่ยนกำลัง 2 กองร้อย เพื่อดูแลความปลอดภัย ยืนยันปฏิบัติตามหลักยุทธวิธี
ยืนหนังสือ-อ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูต
จากนั้นเวลา 19.50 น. น.ส.ภัสราวลี พร้อมด้วย ไผ่ ดาวดิน และนายแพทริค เป็นตัวแทนกลุ่มราษฎรเข้าไปยื่นหนังสือเรียกร้องของกลุ่ม พร้อมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทูตเยอรมัน
โดยมีตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์ 3 ภาษา เริ่มต้นด้วยไทย อังกฤษและเยอรมัน ซึ่งต้องการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และองคาพายพ ต้องลาออกจากตำแหน่ง ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นของประชาชน และปฏิรูปสถาบัน
ต่อมาเวลา 20.58 น. หลังจากน.ส.ภัสราวลี มีการปราศรัยที่หน้าสถานทูตแล้ว จึงได้ประกาศยุติการชุมนุม
ได้ให้เวลาสถานทูตฯ เพื่อยื่นเรื่องไปถึงรัฐบาลเยอรมนี โดยจะติดตามต่อไป ซึ่งทูตเยอรมนีให้ความสำคัญกับการเรียกร้องของประชาชนไทยอย่างมาก พร้อมรับปากว่าจะมีการตรวจสอบและดูเนื้อหาที่ส่งไป ก่อนจะส่งต่อไปให้รัฐสภาของเยอรมนีต่อไป
