"วิโรจน์" ลั่นรัฐใช้ 3 แสน URL ขู่ ปชช. "พุทธิพงศ์" โต้ปิดกั้นใช้สื่อ

การเมือง
27 ต.ค. 63
13:14
674
Logo Thai PBS
"วิโรจน์" ลั่นรัฐใช้ 3 แสน URL ขู่ ปชช. "พุทธิพงศ์" โต้ปิดกั้นใช้สื่อ
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปชี้ รัฐบาลไม่รับฟังประชาชน จับกุมผู้เห็นต่าง ใช้ตัวเลข 3 แสน URL ข่มขู่ประชาชนในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่ รมว.ดีอีเอส โต้ปิดกั้นแสดงออกทางโซเชียล ยืนยัน ดำเนินการตามกฎหมายหมาย 3 แสน URL กระทำผิดจริง

วันนี้ (27 ต.ค.2563) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่ออภิปรายทั่วไปตามมาตรา 165 เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง โดยระบุว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับฟังเสียงประชาชน และยังยืนกรานว่าไม่เคยทำผิดอะไรมา 6 ปี อีกทั้งตัวนายกรัฐมนตรีเป็นแกนกลางของปัญหาและยิ่งเพิ่มกองฟืนในกองเพลิง จับกุมคนเห็นต่างและจะจับคนใช้โซเชียล

ถ้าประเทศนี้จับคนหรือจับ 3 แสน URL คงอยู่กันไม่ได้แล้ว ความแตกต่างเป็นเรื่องปกติในสังคม โดยเฉพาะความเห็นต่างที่ละเอียดอ่อน แต่จุดยืนที่สังคมต้องมี คือ การอยู่ร่วมกันในประเทศ คนรอบข้างที่เห็นต่างมีทั้งคนในครอบครัว เพื่อนสนิท เราไม่สามารถกำจัดคนเห็นต่างออกจากชีวิต


นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า นายกรัฐมนตรี ไม่คิดจะเรียนรู้ความเสียหาย ทุกวันนี้ยังใช้คำว่าชังชาติ ล้มเจ้า ต่อไปจะให้ฆ่ากันแล้วทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ แล้วมาแต่งเพลงขายฝันซ้ำอีกหรือ ผมคิดว่าควรเลิก รวมถึงพฤติกรรมที่ศูนย์นายกฯ โพสต์ข้อความเสียดสีเป็นระยะทางโซเชียล และหนังสือเกณฑ์คนออกมา นำตำรวจ ทหารไปใส่เสื้อเหลือง พฤติกรรมเหล่านี้เป็นความพยายามทีจะแบ่งคนเป็นฝักฝ่าย

ขณะที่นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส ได้ชี้แจงกรณี ส.ส.วิโรจน์ อภิปรายว่ามีการใช้กฎกมายในปิดกั้นการแสดงออกของประชาชน ผ่านสื่อโซเชียล โดยระบุว่า การใช้ตัวเลขข่มขู่ประชาชน 3 แสน URL ที่ทำผิดกฎหมายต้องชี้แจงว่า ต้องมองอีกมิติด้วย ในฐานะที่เป็นภาครัฐจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยประชาชนที่ท่องโลกออนไลน์ปัจจุบัน มีการแสดงความเห็นที่หลากหลายจริงๆ สิ่งที่แสดงออกมารุนแรง หากปล่อยให้เลยไปจะเป็นอย่างไร ทั้งยุยงปลุกปั่น ทำร้ายสถาบันหลักของประเทศ ด้วยการแสดงออกที่ไม่ได้น่ารัก

วันนี้ผมยังถูกต่อว่าด้วยซ้ำว่าทำน้อยไป เพราะประชาชนบางส่วนก็รับไม่ได้

นายพุทธิพงศ์ ระบุว่า ใครทำผิดก็ว่าไปตามข้อกฎหมายไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของท่าน ถ้าผมไปกำหนดขนาดนั้น แล้วทุกวันนี้ท่านจะใช้โซเชียลอย่างอิสระได้อย่างไร แต่ 3 แสน URL กระทำผิดจริงตามข้อกฎหมาย โดยดีอีเอสเริ่มจากต้นตอการนำเข้าข้อมูลทำให้วันนี้เกือบ 3,000 คดี ก็เข้าไปอยู่ในมือตำรวจแล้ว

เรื่องการปิดกั้นสื่อต้องยอมรับว่าบางสื่อก็เจตนา ตั้งใจจาบจ้วง ใช้คำพูด คำปราศรัยถ่ายทอดไป โดยไม่ได้เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ใครคนใดคนหนึ่ง ทั้งหมดที่ดำเนินคดี ดีอีเอสไม่ได้ดำเนินคดีจากความรู้สึกของรัฐบาล เราอาศัยกระบวนการยุติธรรม

ทั้งนี้ หลักฐาน 80% ประชาชนเป็นผู้ส่งมาให้ เมื่อตรวจสอบเห็นว่ามีหลักฐาน ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ขอคำสั่งศาล เมื่อมีคำสั่งศาลก็ส่งไปยังแพลตฟอร์มทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบและอื่นๆ ให้เขาปฏิบัติเพื่อทำให้สังคมโซเชียลประเทศไทยเป็นพื้นที่สะอาดและปลอดภัย

ผมยืนยันว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติหากผิดจริง ก็ยังต้องดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน นายวิโรจน์ ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงพร้อมตอบกลับ รมว.ดีอีเอส ว่า กรณีการใช้โซเชียลมีเดียแบบไม่น่ารัก ต้องยอมรับว่ามีอยู่จริง แต่ต้องย้อนว่าภาพไม่น่ารักนั้นเกิดจากอำนาจนิยมที่กดทับพวกเขาอยู่ ทำให้ต้องเลือกที่จะปะทุออกมา พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดใช้อำนาจนิยมกดทับประชาชนต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง