วันนี้ (31 ต.ค.2563) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ป่วย COVID-19 ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 9 ล้านคนแล้ว หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ หลังจากเมื่อวานนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มมากกว่า 100,000 คน ซึ่งทำลายสถิติเพิ่มขึ้นสูงสุดใน 1 วัน เป็นครั้งที่ 5 แล้วในรอบ 10 วันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังพบการระบาดรุนแรงเพิ่มขึ้นทำสถิติในอย่างน้อย 12 รัฐทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ มีรัฐมิชิแกน นอร์ท แคโรไลนา โอไฮโอ เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน รวมอยู่ด้วย โดยรัฐเหล่านี้ถือเป็นสวิง สเตท หรือรัฐที่ผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรคการเมืองต่างพยายามแย่งชิงคะแนนนิยม เนื่องจากอาจมีผลชี้ชะตาผู้นำสหรัฐอเมริกาคนต่อไป
COVID-19 ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐอเมริกา โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้ปรับปรุงแบบประเมินตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ซึ่งคาดว่า สหรัฐอเมริกาจะเริ่มมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในเดือนหน้า และจะทำสถิติใหม่ในเดือนมกราคมอยู่ที่มากกว่า 72,000 คน
ชาวอเมริกาแห่โหวตล่วงหน้ากว่า 87 ล้านคน
ชาวอเมริกันในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทยอยเดินทางเข้าใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ภายในสนามกีฬา ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นหน่วยเลือกตั้ง ในนครลอสแอนเจลิสอย่างคึกคัก ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ไม่ต่างจากบรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้า ในรัฐเท็กซัสที่จัดขึ้นเป็นวันสุดท้าย ซึ่งชาวอเมริกันทยอยเดินทางเข้าใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ากันไม่ขาดสาย โดยใช้วิธีลงคะแนนเลือกตั้ง แบบไม่ต้องลงจากรถ
ขณะที่ส่วนหนึ่งเดินทางไปใช้สิทธิ์ที่คูหาเลือกตั้งด้วยตัวเอง ซึ่งในบางหน่วยเลือกตั้ง เปิดให้ผู้ใช้สิทธิ์สามารถเข้าไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับเท็กซัสมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่า 9 ล้านคนแล้ว ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำสถิติแซงหน้ายอดผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งของรัฐเท็กซัส เมื่อปี 2016
ทั้งนี้ ข้อมูลจากหน่วยงานที่จัดทำสถิติจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า ล่าสุด มีชาวอเมริกันออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว มากกว่า 87 ล้านคน หรือประมาณ 2 ใน 3 ของจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ทั้งหมด เมื่อ 4 ปีที่แล้ว