วันนี้ (3 พ.ย.2563) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสั่งให้ระบบอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่ายระงับการเข้าถึงเว็บไซต์ลามกอนาจาร ว่า สืบเนื่องจากเป็นเว็บไซต์ผิดกฎหมายและกระทรวงได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมากจึงรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาลและศาลได้มีคำสั่งปิดไปกว่า 190 ยูอาร์แอล
กระบวนการในการปิดเว็บไซต์ลามกอนาจารนั้นจะแตกต่างจากแพลตฟอร์มปกติ เนื่องจากเว็บไซต์ลามกอนาจารส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ในหลายประเทศอาจจะถูกกฎหมาย สามารถเสียเงินและเป็นสมาชิกเข้าดูได้ แต่ในประเทศไทยถือว่ายังผิดกฎหมายอยู่จึงต้องใช้วิธีการปิดกั้นการมองเห็นในประเทศไทย โดยเมื่อได้คำสั่งศาลมาแล้วจะส่งให้กับผู้ให้บริการมือถือทุกค่าย รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกราย เพื่อแจ้งให้ปิดการมองเห็นในประเทศ แต่ในต่างประเทศยังเข้าได้ปกติ เนื่องจากเป็นการบังคับใช้เฉพาะกฎหมายไทย
ส่วนผลของการดำเนินการ ที่ทำให้รัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนักนั้น นายพุทธิพงษ์ ระบุว่าขอให้มองใน 2 มิติผู้ที่ร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองและผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงเยาวชนและถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายของไทย ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายจึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งที่ผ่านมาอาจไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง จึงมีการเข้าถึงได้บ้างและมั่นใจว่าจะไม่เป็นประเด็นให้มีคนไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น
กระทรวงดีอีเอสจะไม่ตอบโต้ใด ๆ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีจากบางฝ่าย เนื่องจากจะต้องทำตามหน้าที่ และเชื่อว่าผู้ที่เห็นต่างจะเข้าใจก่อนจะอ้างอิงว่ามีผู้สนับสนุนการดำเนินการของกระทรวงดีอีเอสจำนวนมาก เพราะเข้าใจว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลใด ๆ หรือมีเจตนาที่จะรังแกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
นอกจากเว็บไซต์ผิดกฎหมายที่ดีอีเอสรวบรวมได้ และส่งศาลจำนวนกว่า 190 ยูอาร์แอล หลังจากนี้ก็จะดำเนินการกับเว็บไซต์ทลามกอนาจารและเว็บไซต์การพนันอย่างต่อเนื่อง