วันนี้ (5 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับสัตวแพทย์ปางช้างสวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี เข้ารักษาช้างงาสั้น หรือเจ้าอ้วนช้างป่าที่มีอาการบาดเจ็บขาขวามบวมแดง ที่เขาสิงโต ม.3 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยนำเอาหนองและรักษาแผลที่ขาบวมได้แดงได้ แต่ปรากฏว่าช้างงาสั้น ไปลงในน้ำใกล้พื้นที่ และไม่ยอมขึ้นจากน้ำ
ล่าสุดทวิตเตอร์ Forest for Wild Life _ ป่าเพื่อสัตว์ป่า @DnpReport โพสต์ข้อความว่า ช้างป่างาสั้นไม่ขึ้นจากบ่อน้ำมากว่า 48 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พยายามต้อนให้ขึ้นจากน้ำแต่ไม่เป็นผลสำเร็จโดยช้างกินอาหารได้ในน้ำ และขับถ่ายในน้ำ ทีมสัตวแพทย์ ยังคงกังวลเรื่องของแผลบริเวณขาหน้าข้างซ้ายที่เปื่อยยุ่ยจากการแช่บ่อน้ำธรรมชาติเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.10 น. ตอนนี้เจ้าหน้าที่นำรถมาช่วยสูบน้ำออกจากบ่อน้ำแล้ว เอาใจช่วยเจ้าอ้วนนะ ลุกขึ้นมาเร็ว อึ๊บอึบ หมอจะได้ช่วยรักษาขาให้หายเร็ว ๆ
ภาพ: Forest for Wild Life _ ป่าเพื่อสัตว์ป่า
อาการทรุดหนัก-แช่น้ำนานแผลเน่า
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรง สัตวแพทย์จากปางช้างสวนนงนุชพัทยา หนึ่งในทีมสัตวแพทย์ที่เข้าร่วมรักษาช้างงาสั้น กล่าวว่า หลังจากได้มีการเปิดแผลช้างงาสั้นไปเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการวางแผนจะเคลื่อนย้ายช้างออก แต่เจ้าอ้วน กลับไปลงน้ำและไม่ยอมขึ้นจากน้ำนาน 48 ชั่วโมง โดยสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง เพราะสูบน้ำออก แต่ก็ก็มีตาน้ำเข้ามาเรื่อยๆ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายที่มีน้ำหนักกว่า 2 ตันขึ้นมาได้ง่ายๆ
นายสัตวแพทย์เผด็จ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับสัตวแพทย์ที่ดูแล ก็ค่อนข้างกังวล เพราะบาดแผลที่เปิดไว้มีแผลลึกจนกินถึงข้อกระดูก แช่นานเกิน 48 ชั่วโมงจนแผลเปื่อยได้ และยิ่งอยู่นานโคลนดูดไปเรื่อยๆ จนไม่มีแรงจะยืน และร่างกายยังมีพิษจากสารตะกั่ว ที่เกิดจากลูกปืนฝังในร่างกายช้างทั้งตัว
การแช่น้ำนาน 48 ชั่วโมงเป็นจุดพลิกที่ทำให้ช้างงาสั้นที่บาดเจ็บจมอยู่ในโคลน จนอุณหภูมิร่างกายลดลงเสี่ยงต่ออาการช็อก ซึ่งหลังจากสูบน้ำออกได้แล้วสัตวแพทย์ ได้ให้สารน้ำ สารอาหาร วิตามิน และยากันช็อก และก่อไฟเพิ่มความอบอุ่น
ภาพ:Forest for Wild Life _ ป่าเพื่อสัตว์ป่า
นายสัตวแพทย์เผด็จ กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าอาการของช้างงาสั้น อาการทรุดลง และสัญชาติญาณที่เคยมี เริ่มหายไปหมด มีอาการอ่อนแรง นอนนิ่งๆ งวงก็ทอด หางและหูไม่สะบัด ซึ่งสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแลช้างงาสั้นพยายามช่วยทุกวิถีทางเพื่อเอาใจให้ช้างต่อสู่กับบาดแผล ซึ่งวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) จะลงไปช่วยเหลืออีกแรงหนึ่ง
ช้างป่างาสั้นไม่ขึ้นจากบ่อน้ำมากว่า 48 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พยายามต้อนให้ขึ้นจากน้ำแต่ไม่เป็นผลสำเร็จโดยช้างกินอาหารได้ในน้ำ และขับถ่ายในน้ำ ทีมสัตวแพทย์ ยังคงกังวลเรื่องของแผลบริเวณขาหน้าข้างซ้ายที่เปื่อยยุ่ยจากการแช่บ่อน้ำธรรมชาติเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ pic.twitter.com/TiR2efOnDH
— Forest for Wild Life _ ป่าเพื่อสัตว์ป่า (@DnpReport) November 5, 2020
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รอลุ้น 2 สัปดาห์ผลรักษา "งาสั้น" ช้างป่าบาดเจ็บถูกยิง