ป.ป.ช.เผยบัญชีทรัพย์สิน "สุพัฒนพงษ์" กว่า 154 ล้านบาท

การเมือง
6 พ.ย. 63
12:36
474
Logo Thai PBS
ป.ป.ช.เผยบัญชีทรัพย์สิน "สุพัฒนพงษ์" กว่า 154 ล้านบาท
ป.ป.ช.เปิดเผยรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีรัฐมนตรี และ ส.ส.ที่รับตำแหน่งใหม่ โดยพบว่านายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ มีทรัพย์สินมากกว่า 154 ล้านบาท ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีธนารักษ์จังหวัดพะเยานำรถยนต์ราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

วันนี้ (6 พ.ย.2563) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เปิดเผยรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยนายสุพัฒนพงษ์ และนางฐิติมา พันธ์มีเชาว์ คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สิน กว่า 154 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน โดยเป็นทรัพย์สินของนายสุพัฒนพงษ์ กว่า 97 ล้านบาท ทรัพย์สินของนางฐิติมา กว่า 56 ล้านบาท โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝาก กว่า 97 ล้านบาท, เงินลงทุน กว่า 31 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีที่ดิน มูลค่ารวม 7 ล้านบาท

 

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

ขณะที่รายการทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป นายสุพัฒนพงษ์ และคู่สมรสแจ้งว่า มีนาฬิกา 8 เรือน มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท, แหวนเพชรและแหวนทอง 9 วง มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท

ป.ป.ช.ยังเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กรณีเข้าตำแหน่ง ส.ส. โดยนายสุชาติ และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น กว่า 149 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน เป็นทรัพย์สินของนายสุชาติ กว่า 35 ล้านบาท และของคู่สมรส กว่า 113 ล้านบาท

ชี้มูลความผิดกรณีนำรถหลวงใช้ส่วนตัว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด น.ส.พัชรินทร์ ทิพยพลาติกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งธนารักษ์พื้นที่พะเยา จ.พะเยา กรณีนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตน เบียดบังเวลาราชการ และรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า นางสาวพัชรินทร์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช.

 

 

นอกจากนี้ ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล และไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ ราชการอย่างร้ายแรง

เบื้องต้น ป.ป.ช.ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล และส่งให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย กับ น.ส.พัชรินทร์

สำนักงาน ป.ป.ช.ยังเผยแพร่มติคณะรัฐมนตรี ที่เห็นชอบแนวทางป้องกันการทุจริตเงินอุดหนุนวัด 5 ข้อ ตามการเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบด้วย การจัดทำฐานข้อมูลกลาง, ปรับปรุงกระบวนการจัดทำคำขอและการจัดสรรงบประมาณ, การจัดทำแผนการใช้จ่ายเงินที่ชัดเจน, การติดตามตรวจสอบการใช้จ่าย เงิน และการปรับปรุงช่องทางในการแจ้งเบาะแสการทุจริต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง