บริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทไบออนเทค ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนชีวภาพของเยอรมนี ว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นจากการทดสอบวัคซีนในระยะ 3 พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกัน COVID-19 มากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งก็ถือเป็นข่าวดีอย่างมากต่อวงการวิทยาศาสตร์และมวลมนุษยชาติ
ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวมาจากการทดสอบวัคซีน COVID-19 กับอาสาสมัคร 43,500 คน ใน 6 ประเทศและไม่พบผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยบริษัทไฟเซอร์มีแผนจะยื่นขออนุมัติเพื่อใช้วัคซีนกรณีฉุกเฉินภายในสิ้นเดือนนี้
สำหรับวัคซีนชนิดนี้เป็นเทคโนโลยี mRNA ที่ออกแบบมาต้องฉีด 2 ครั้ง ถึงจะได้ผลการคุ้มกันโรคที่ดี เนื่องจากเป็น mRNA จึงจำเป็นต้องใช้ความเย็นสูงระดับ -70 องศาเซลเซียส ในการเก็บรักษา ตั้งเป้าผลิตในปีนี้ 50 ล้านโด๊ส หรือสำหรับ 25 ล้านคน ส่วนในปีหน้าทั้งปีจะสามารถผลิตได้ 1,300 ล้านโด๊ส หรือสำหรับ 650 ล้านคน
แม้จะมีความท้าทายอีกมากที่รออยู่ แต่การประกาศข่าวดีของบริษัทไฟเซอร์ในครั้งนี้ก็ได้รับการตอบรับด้วยดีจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ ซึ่งบางคนตั้งความหวังว่าวัคซีนจะช่วยให้ชีวิตกลับคืนสู่ภาวะปกติ ซึ่งความคืบหน้าการทดสอบวัคซีน COVID-19 ของบริษัทไฟเซอร์มีขึ้นในขณะที่ภาพรวมสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกยังน่าวิตก ล่าสุด องค์การอนามัยโลกเปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 50 ล้านคนแล้ว หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้าน ในช่วงเวลาเพียง 20 วัน
