วันนี้ (13 พ.ย.2563) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "Yong Poovorawan" กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องวัคซีน COVID-19 ว่า การศึกษาระยะสุดท้ายแบบสมบูรณ์ คงจะมีผลประกาศออกมาในเดือนหน้า เชื่อว่าหลายตำรับของวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง
วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคในอุดมคติ จะต้องประกอบไปด้วย ให้เพียงครั้งเดียวก็ป้องกันโรคได้ อาการข้างเคียงต่ำ เก็บได้ที่อุณหภูมิห้อง เป็นที่ยอมรับของประชาชน และต้นทุนการผลิตต่ำหรือราคาถูก
วัคซีน COVID-19 ที่ประกาศผลเบื้องต้นตำรับแรกเป็น mRNA วัคซีนของ บริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” กับ “ไบโอเอ็นเทคฯ” ที่แถลงออกมาถึงประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน
วัคซีนที่เป็น RNA จะถูกทำลายได้ง่ายโดยธรรมชาติ การเก็บรักษาจึงต้องใช้อุณภูมิเย็นจัดถึง -70 องศาเซลเซียส และเมื่อละลายมาที่ 2-8 องศาเซลเซียสแล้วจะต้องรีบใช้ใน 4-7 วัน
เช่นเดียวกันกับวัคซีนที่เป็นไวรัสเชื้อเป็นหรือไวรัสเวกตอร์ก็จำเป็นที่ต้องเก็บแช่เย็นจัด ยกเว้นสามารถทำเป็นรูปผงแห้ง เช่น วัคซีนหัด ก็จะสามารถเก็บได้ที่ 4 องศาเซลเซียสได้ แต่ถ้าเป็นวัคซีน COVID-19 เชื้อตายอย่างที่จีนผลิต ก็จะสามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสได้
ดังนั้นนอกจากดูประสิทธิ์ภาพของวัคซีนแล้ว ราคาและการเก็บรักษา และการขนส่งเพื่อไปให้กับผู้รับบริการจะมีความสำคัญไม่ด้อยไปกว่าประสิทธิภาพของวัคซีน
ถ้าวัคซีนต้องเก็บที่ -70 องศาเซลเซียส ความสามารถและการเก็บของประเทศไทย ความเป็นไปได้จะน้อยมาก เพราะขณะนี้ที่ศูนย์ใช้ตู้เย็น -70 องศาเซลเซียส เก็บตัวอย่างราคาตู้เย็นยังเท่ากับรถยนต์ 1 คันทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง