วันนี้ (17 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย.นี้ คาดว่าจะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศประมาณ 3.02 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 1.26 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 37% ใกล้เคียงกับช่วงวันหยุดชดเชยเนื่องในวันสงกรานต์ 4-7 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวในรอบนี้ลดลง อาจเป็นเพราะอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีวันหยุดยาวในวันที่ 10-13 ธ.ค.2563 คาดว่านักท่องเที่ยวบางกลุ่มอาจชะลอการเดินทาง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ลดลงและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวมีจำกัด
ส่วนปัจจัยส่งเสริมที่มาช่วยพยุงให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด คือ สภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสานตอนบน ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เมืองหลัก อาทิ ชลบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี เป็นต้น ขณะที่เมืองรองอย่างนครศรีธรรมราช ยังคงได้รับความนิยมจากกระแสศรัทธาไอ้ไข่วัดเจดีย์ ทำให้ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้าพื้นที่
ศบศ.เตรียมปลดล็อกเราเที่ยวด้วยกันเพิ่ม
ขณะที่ตัวเลขการเดินทางท่องเที่ยวยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เเม้จะมีสารพัดมาตรการช่วยกระตุ้น จึงต้องติดตามการประชุม ศบศ.ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย. ) ซึ่งคาดการณ์ว่า ศบศ.จะพิจารณามาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวเพิ่มเติม เช่น อนุญาตให้นำแพ็กเกจทัวร์เข้าสู่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ประกอบด้วยแพ็กเกจทัวร์หลัก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มท่องเที่ยวสูงวัยที่มีศักยภาพทางการเงินและมีเวลาว่างในวันธรรมดา โดยเป็นการท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์เเบบ 3 วัน 2 คืน เเละให้รัฐสนับสนุนการเดินทางร้อยละ 40 และกลุ่มท่องเที่ยวพรีเมี่ยมเจาะกลุ่มไทยเที่ยวนอก
นอกจากนี้จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจองและจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน เพียงร้อยละ 60 โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวน และนำมาขอส่วนต่างร้อยละ 40 คืนในภายหลัง, อนุญาตให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากรเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เเละให้ขยายสิทธิคืนพักต่อนักท่องเที่ยว 1 คนจาก 10 คืนเป็น 15 คืน เป็นต้น