วันนี้ (17 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.29 น. ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา หารือต่อที่ประชุมรัฐสภา ขอให้นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งเสนอโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ และประชาชนอีก 98,824 รายชื่อ หรือร่างของไอลอว์ เข้าพิจารณาหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมไม่ได้คัดค้าน จากนั้นนายพรเพชร ระบุว่าให้ตัวแทนภาคประชาชนที่เสนอแก้ไขร่างรธน.ฉบับที่ 7นำเสนอต่อรัฐสภา ดังนี้ นายจอน อึ๊งภากรณ์ นายยิ่งชีพ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และน.ส.จีรนุช เปรมชัยพร เป็นตัวแทนในการนำเสนอหลักการและเหตุผล
เวลา 15.36 น. นายจอน อึ๊งภากรณ์ ในฐานะผู้แทนภาคประชาชน นำเสนอรายชื่อร่างประชาชนต่อที่ประชุมร่างรัฐสภา และไม่ใช่ร่างของไอลอว์ แต่เป็นร่างของประชาชน ที่ร่วมลงชื่อกว่า 100,000 คนที่มาร่วมกันลงชื่อภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และมีการรับรองรายชื่อ 98,824 คน ประชาชนอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญ เขียนว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ตรงนี้เป็นการโกหก น่าจะถือว่าเป็นโมฆะ
ในรัฐธรรมนูญประชาชนมีสิทธิเลือกแค่ ส.ว. แต่ไม่มีโอกาสกำหนดว่าใครจะตั้งรัฐบาล ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีองค์ประกอบอืนๆไม่ได้มาจากประชาชนเป็นผู้กำหนด จึงจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ถอนพิษระบบเผด็จการออกก่อน และเปิดโอกาสให้มีส.ส.ร.ที่จะร่างรัฐธรรมนูญ
นายจอน ระบุหลังช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีการยกร่างฉบับนี้ขึ้น มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ พบว่าประชาชนตื่นตัวมีการรอคิวเพื่อลงชื่อ และถ่ายบัตรประชาชน มีการส่งทางไปรษณีย์ ก็มาสอบถามข้อมูลว่าถึงหรือไม่ รวมทั้งมีประชาชนมาเรียกร้องประชาธิปไตยตามท้องถนน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ ทำให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไป
คนรุ่นใหม่ทนไม่ได้อยากเห็นไทยเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว ดังนั้นจึงหวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะให้ความสำคัญกับร่างฉบับของประชาชน และไม่ใช่ปฏิเสธตั้งแต่วาระแรก
นอกจากนี้ นายจอน กล่าวด้วยว่า อยากให้ข้อดีๆหลายอย่างของร่างฉบับนี้ได้เข้าไปพิจารณาร่วมกับร่างของพรรคการเมือง ที่สำคัญไทยจะพ้นวิกฤต และไทยจะเข้าสู่อารยประเทศได้ ต้องพัฒนาสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด เพราะไทยมีปัญหากับรัฐธรรมนูญถึงมีการเสนอแก้ไขในหลายร่าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไร้สาระสำคัญ! ติงรายงานแก้รธน. 400 หน้าแค่ซื้อเวลารัฐบาล
ห้ามใกล้ ! ผบช.น.เตือนผู้ชุมนุมทุกกลุ่มห่างรัฐสภา 50 เมตร
ตำรวจฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา สกัดมวลชนหลังประชิดแนวกั้นใกล้รัฐสภา