วันนี้ (18 พ.ย.2563) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังรัฐสภาลงมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ โดยระบุว่า ได้รับฟังคำอภิปรายตลอด 2 วันเต็มจากสมาชิกรัฐสภา ปรากฏชัดว่า ไม่มีใครบอกได้ชัดเจนว่าเห็นต่างจากหลักการข้อใดของไอลอว์
ทั้งนายกฯ มาจากประชาชน ไม่มี ส.ว.มาจากการแต่งตั้งมาเลือกนายกฯ ไม่มีช่องทางนายกฯ คนนอก องค์กรอิสระต้องเป็นอิสระ ไม่ใช่มาจากผู้บริหารประเทศ ไม่มีสมาชิกคนใดเลยอภิปรายเห็นว่าจะเป็นอย่างอื่น แต่มีความพยายามทีจะเปลี่ยนประเด็น อ้างเรื่องเทคนิค
นายยิ่งชีพ ระบุว่า เมื่อพูดถึงการลงมติ ต้องยอมรับว่า เป็นอำนาจของรัฐสภา ไม่ใช่อำนาจของประชาชน เพราะประชาชนมีอำนาจเข้าชื่อมาเสนอ ซึ่งประชาชนทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อนำความฝันมาเสนอ ก็พบว่า ไม่มีใครเห็นต่าง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลก็อภิปรายเห็นด้วยกับความฝันของประชาชน เท่านี้ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว
ในฐานะที่ไอลอว์ริเริ่มการเข้าชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องบอกว่าที่มาถึงจุดนี้ได้ เพราะประชาชนร่วมมือกัน ประตูของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่ารัฐสภาจะมีมติใด ไม่ได้มีผลเป็นการปิดประตูของประชาชนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ในวาระที่ 2 หรือ 3 ประชาชนจะไม่มีตัวแทนไปแล้ว อำนาจของประชาชนมาสุดทางในวันนี้ แต่อย่างไร หลักการที่เห็นร่วมกันทั้งประชาชนและสมาชิกรัฐสภายังคงอยู่ ก็ยังจะมีการเดินหน้าต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวังได้ พร้อมชื่นชม ส.ว. 3 คนที่โหวตรับหลักการร่างไอลอว์ รวมถึง ส.ว.อีกหลายคนที่สนับสนุนร่างที่ลดอำนาจของตนเอง
การลงมติในวันนี้ ส.ว.ถือว่าลงคะแนนได้อย่างหลากหลาย ไม่ได้ไปทิศทางเดียว หลายคนที่ไม่สนับสนุนร่างไอลอว์ ก็สนับสนุนร่างที่ลดอำนาจตนเอง รวมถึง ส.ว. 3 คนที่รับหลักการร่างไอลอว์ก็น่าชื่นชมมาก
นายยิ่งชีพ ได้ฝากถึงประชาชนที่ร่วมเข้าชื่อกว่าแสนคนว่า ขอให้ภาคภูมิใจ และอย่าเสียใจ เพราะได้สร้างประวัติศาสตร์ผลักดันร่างเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ได้สำเร็จแล้ว เพราะทุกคนยังคงมีความฝันร่วมกัน เพื่อทำให้การเมืองที่ไม่ปกติกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้