จับตา! ท่าทีหลังแถลงการณ์นายกฯ ใช้กฎหมายคุมเข้มม็อบ

วันนี้ (19 พ.ย.2563) ภายหลังแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีออกมาได้ไม่นาน เฟซบุ๊กเพจ "เยาวชนปลดแอก" ได้เผยแพร่ข้อความโดยสรุปว่า แถลงการณ์นี้ถือเป็นการประกาศสงครามกับประชาชนเต็มรูปแบบใช่หรือไม่? รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ โดยจะใช้นิติสงครามเต็มรูปแบบ ทุกมาตราที่มีอยู่ในมือนั่นอาจรวมถึงมาตรา 112

ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงแล้ว อนาคตของประเทศ ขึ้นอยู่กับข้าราษฎรทุกหมู่เหล่า พนักงานออฟฟิศ ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา และราษฎรทุกคน

ทั้งนี้ สันติวิธีนั้น มีหลายรูปแบบ การสาดสี และพ่นสี ยังจัดอยู่ในสันติวิธีแต่บนรัฐที่ล้มเหลวเช่นนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ การพยายามบิดเบือนและสร้างความชอบธรรมให้รัฐเกิดขึ้นอยู่เสมอ ดังเช่นในอดีตแต่ผองราษฎรจงอย่ายอมจำนนโปรดเตรียมพร้อมรับมือกับความเหลวแหลกของรัฐ

เช่นเดียวกับนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พล.ประยุทธ์ ประกาศรบกับประชาชน สำหรับข้าราชการที่ยังไม่เลือกข้างต้องเลือกแล้วว่าจะอยู่กับอดีตหรือจะสร้างอนาคต ไปพร้อมกับประชาชน

พวกเรายืนยันสันติวิธีขั้นสูงสุด ในการต่อสู้ครั้งนี้และพร้อมจะยกเพดานการต่อสู้ทางสันติวิธีแบบที่เคยยกเพดานด้านข้อเรียกร้องเช่นกัน ขอให้เพื่อนร่วมขบวนราษฎร เตรียมอุปกรณ์ป้องกันและดูแลจิตใจให้เข้มแข็ง มุ่งมั่น ต่อสู้เพื่อสังคมใหม่ของเราทุกคน

โฆษกก้าวไกลแนะนายกฯ ลาออกแก้ปัญหาประเทศ

ขณะที่ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล ก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า วันนี้เมื่อประชาชนยกระดับการเรียกร้องโดยแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เวลานี้ไม่ว่าห้างร้านต่างๆ หรือรถไฟฟ้าเขาก็เปิดทำการได้ตามปกติแม้มีการชุมนุมใหญ่เพราะรู้ว่าการชุมนุมไม่ใช่การก่อจลาจลหรือการยกระดับความรุนแรงใดๆ

พวกเขามีเพียงสองมือและเรือเป็ด แต่รัฐกลับออกประกาศใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตราจัดการกับประชาชน 

นอกจากนี้ นายณัฐชายังมีความกังวลถึงการใช้ ม.112 พร้อมเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์ในประเทศสงบลง 

แรมโบ้อีสานหนุนนายกฯ แถลงการณ์เหมาะสม

ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การออกแถลงการณ์ของนายกฯ นั้น เกิดขึ้นเพราะการชุมนุมไม่เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมชี้ว่าก่อนหน้านี้ นายกฯ ไม่เคยห้ามให้มีการชุมนุม เพียงขอให้ทำตามกฎหมายเท่านั้น และพยายามดูแลรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมกลับไม่ทำตาม ดังนั้น จึงเห็นว่าการออกแถลงการณ์ครั้งนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว