ต้นทุนชีวิตคนกรุงฯ เมื่อไม่มี "รถเมล์ร้อน"

สังคม
22 พ.ย. 63
09:49
850
Logo Thai PBS
ต้นทุนชีวิตคนกรุงฯ เมื่อไม่มี "รถเมล์ร้อน"
ขสมก.ทยอยยกเลิกรถเมล์ร้อน เช่น รถเมล์ร้อน สาย 29 ,รถเมล์ ร้อนสาย 207 ตั้งแต่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาและเตรียมยกเลิกอีกหลายเส้นทางตามแผนการปฏิรูปรถเมล์ ส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบทั้งขึ้นรถเมล์หลายต่อ รอรถนาน และกระทบค่าครองชีพ

ที่สำคัญต้นทุนชีวิตของคนในกรุงเทพฯไม่เท่ากัน แม้การปรับจากรถเมล์ร้อนเป็นรถเมล์เย็นเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวไม่กี่บาทแต่คนหาเช้ากินค่ำเงินหลักสิบ-หลักร้อยย่อมกระทบต่อชีวิตของพวกเขา

ไทยพีบีเอสจะพาท่านผู้ชมไปดูชีวิตของนางนุช อาดสะลาด แม่บ้านออฟฟิศ วัย 58 ปี ที่ต้องขึ้นรถเมล์หลายต่อเดินทางวันละหลายชั่วโมงเพื่อเข้ามาทำงานในเมืองซึ่งพยายามลดต้นทุนการเดินทางให้มากที่สุดในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

ป้านุช ต้องเดินทางหลายต่อและพาหนะที่เป็นที่พึ่งของคนกรุงฯ ก็คือรถเมล์ โดยรถเมล์ต่อแรกที่จะพาป้านุชออกจากหมู่บ้านที่อยู่ในคลอง 2 มุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่อัตราค่าโดยสาร 9 บาทตลอดสาย

15 -20 นาที รถเมล์จะมาสักคัน เลือกนั่งรถเมล์ร้อนเพราะราคาประหยัด ค่ารถอยู่ที่ 9 บาท เมื่อก่อน 8 บาท นั่งไปถึงปากทางลำลูกกา จ.ปทุมธานี บางทีก็มีไม่ทันงานบ้าง

เมื่อมาถึงถนนใหญ่รังสิต-นครนายกฯ ป้านุชเลือกที่จะเดินต่อไปยังถนนฝั่งวิภาวดี แทนที่การนั่งวินมอเตอร์ไซค์เพราะว่าประหยัดได้ถึง 10 บาท และเมื่อไปถึงป้านุชยังต้องเดินไปขึ้นรถเมล์อีกฝั่งแม้จะเสียเวลาไปไม่ใช่น้อยแต่ในมุมของป้านุชก็ประหยัดเงินได้ถึง 10 บาทแล้ว

เมื่อมาถึงฝั่งถนนวิภาดีรังสิตด้านหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ป้านุชจะรอไม่นานมากแล้วเนื่องจากมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย แต่ที่หายไปแล้วคือ รถเมล์ร้อน สาย 29 ที่เดิมเป็นทางเลือกคนมีรายได้น้อยซึ่งอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 8 บาทตลอดสาย ทุกวันนี้ปรับเป็นรถเมล์เย็นหรือรถเมล์ติดแอร์หมดแล้ว ป้านุชจึงเลือกขึ้นรถเมล์จากสายเหล่านี้ที่มีออยู่แม้ราคาจะแพงขึ้นเกือบเท่าตัวอย่างบางสายเริ่มต้นที่ 18 บาท ก็จำเป็นต้องขึ้นเพราะทางเลือกมีเท่านี้ แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นแต่ระยะเวลาในการเดินทางเท่าเดิม ซึ่งในัวนที่รถไม่ค่อยติดเพราอยู่ในช่วงปิดเทอม ป้านุชใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.ไปยังที่ทำงาน

ชีวิตคนเมืองมีต้นทุนที่ต่างกัน เงิน1 บาท สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้มีความหมายเท่าไหร่ แต่สำหรับชีวิตแม่บ้านอย่างป้านุชที่มีรายได้วันละ 331 บาท การยกเลิกรถเมล์ร้อน เป็นรถเมล์เย็นที่ราคาเพิ่มขึ้นเท่าตัว นั่นมีความหมาย

ก็คิดจะกลับไปอยู่บ้านเหมือนกัน แต่ก็มีปัญหาเพราะน้องชายเอาบ้านไปจำนองและถูกยึดไปแล้ว จึงกลับบ้านไม่ได้ จะหาเงินไปเอาคืนก็ไม่มีหนทาง 


สำหรับชีวิตรายวันของคนกรุงที่ หาเช้า-กินค่ำ ป้านุชไม่ได้รู้สึกว่าลำบาก ที่ต้องเดินทางวันละหลายชั่วโมงในการเดินทางไป –กลับ แต่การประหยัดเงินเพื่อประคองชีวิตครอบครัวและค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นภาระที่หนักและเหนื่อยยิ่งกว่า วันนี้ ขสมก.เตรียมปรับแผนการเดินรถ ทำให้ "รถเมล์ร้อน" หลายสายกำลังจะหมดไปและบางเส้นอาจต้องหยุดการเดินรถตามจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง ด้านหนึ่งการมองไปข้างถึงการพัฒนาเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่อาจมองข้ามโอกาสเล็ก ๆ ที่คนตัวเล็กตัวน้อยในเมืองใหญ่ ที่จะได้ลดรายจ่ายจากสายรถเมล์ดั้งเดิมอย่างรถเมล์ร้อน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง