"ฝุ่นพิษ" ทุบสถิติรอบ 4 ปี ค่าสูงลิ่ว 366 มคก.ต่อ ลบ.ม.

เปิดสถิติฝุ่น PM2.5 กทม.เกินมาตรฐาน 32 วัน ส่วนภาคเหนือ 112 วัน ชี้ค่าความเข้มข้นทุบสถิติในรอบ 4 ปีเกินมาตรฐาน 7 เท่า สูงสุด 366 มคก.ต่อ ลบ.ม. เมื่อ 21 มี.ค.63 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย อธิบดีคพ.ระบุมีแผนระดับจังหวัดแต่ไม่ถึงระดับปฎิบัติงาน

วันนี้ (23 พ.ย.2563) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงของปัญหาฝุ่นละอองแล้ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา พบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานหลายพื้นที่ สาเหตุจากปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากจีนที่เริ่มแผ่ลงมาปกคลุมทำให้สภาพอากาศปิด ดังนั้นตามมาตรการแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขมลพิษด้านฝุ่นละออง 2563 ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อสัปดาห์ก่อน มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องลดปัญหาลงให้ได้อย่างน้อย 20%

การประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เมื่อเดือน ก.ย.ได้มอบนโยบายเรื่องหมอกควันไฟป่า โดยให้กำหนดตัวชี้วัดว่าต้องทำให้ได้เท่าไหร่ คพ.จึงกำหนดเป้าหมายในวาระแห่งชาติไว้ว่าต้องอย่างน้อย 20%

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า จากข้อมูลเชิงสถิติการติดตามตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม. โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าปริมาณฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงปี 2563 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-11 พ.ย. ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 2-102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก.ต่อ ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐาน 50 มคก.ต่อ ลบม.) เกินมาตรฐาน 32 วัน โดยค่าสูงสุดตรวจวัดได้ในเดือน ม.ค.2563

อ่านข่าวเพิ่ม กทม.จ่อใช้แอปฯ พยากรณ์ฝุ่น PM2.5 ล่วงหน้า 3 วัน

ขณะที่สถิติฝุ่นที่สูงสุดในปี 2562 จากการติดตามตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม. โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-11 พ.ย. ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 4-104 มคก.ต่อ ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 34 วัน โดยค่าสูงสุดตรวจวัดได้ในเดือน ม.ค.2562

ภาคเหนือทุบสถิติ PM2.5 รอบ 4 ปีพุ่ง 366 มคก.ต่อ ลบ.ม

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือที่มีสาเหตุจากการเผาพื้นที่เกษตร การเก็บหาของป่า ทำให้ช่วงต้นปีที่ผ่านมาภาพถ่ายดาวเทียมตรวจวัดจุดความร้อนมากถึง 88,855 จุด ส่งผลให้จำนวนวันที่ฝุ่นเกินมาตรฐานมากถึง 112 วัน และมีค่าความเข้มข้นสูงสุด 366 มคก.ต่อ ลบ.ม.

ค่าความเข้มข้น PM2.5 ในภาคเหนือรอบ 4 ปีพุ่ง 366 มคก.ต่อลบ.ม.ในวันที่ 21 มี.ค.63 ที่ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถือเป็นสถิติที่สูงสุดในรอบ 4 ปีตั้งแต่ปี 2560-2563 มีค่าความเข้มข้น 124, 152 ,353 และ 366 ในช่วงต้นปี เกินค่ามาตรฐาน 7 เท่า

ทั้งนี้ นายอรรถพล ระบุว่า จุดอ่อนปี 2562 คือมีแผน แต่ไม่สามารถนำแผนไปใช้ได้อย่างสอดประสานกันได้ เช่น มีวอร์รูมระดับจังหวัด แต่จังหวัดไม่สามารถควบคุมระดับอำเภอ ระดับท้องถิ่น เพราะไฟอยู่ในท้องที่ก็ควบคุมไม่ได้ จุดอ่อนต่อมาคือไม่มีการจัดระเบียบการเผา

ปีก่อนกลัวการเผาจึงห้ามทั้งหมด และห้วงการห้ามเผายาวนานเกินไป พอถึงเวลาชาวบ้านเผาพร้อมกันหมด จึงควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ปีนี้จึงไม่หลีกเลี่ยงไม่ให้เผา แต่ต้องมีการควบคุมจัดระเบียบ เป็นบทเรียนจากปีที่แล้วที่นำมาปรับใช้

นอกจากนี้อีกบทเรียนหนึ่งคือ ทางท้องถิ่นจะต้องบัญชาการสถานการณ์ไฟป่าให้ได้ ที่ผ่านมายังไม่มีความพร้อมดับไฟป่า ทั้งการติดต่อประสานงาน การสนธิกำลังไปดับไฟป่าตามหลักวิชาการ โดยในปีนี้ ทส.มีการอบรมให้ชุมนุมใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ทำให้ชุมชนเข้มแข็งและมีช่องทางในการขอกำลังดับไฟป่า

ตอนนี้เราเข้าฤดูฝุ่นแล้ว อยากให้ประชาชนกลัวฝุ่นเปรียบเสมือนกลัว COVID-19 และอยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเกี่ยวข้องกับการผลิตฝุ่น หรือเป็นแหล่งกำเนิดหรือไม่ ให้รีบลด เช่น ลดการใช้รถส่วนตัว ลดการเผา

ข้าราชการในซอยอารีย์ กล่าวว่า ประสบปัญหาฝุ่นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่วนตัวมองว่าน่ากลัวเทียบเท่า COVID-19 และเมื่อปีก่อนไปข้างนอกจนมองไม่เห็นตึก จึงมีข้อเสนออยากให้ทุกคนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เชื่อว่าตอนนี้ยังทำได้ถ้าทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจัง ทั้งการหันมาใช้รถสาธารณะ เปลี่ยนเครื่องยนต์ การลดการผา รวมถึงการปลูกต้นไม้