วันนี้ (24 พ.ย.2563) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึง กรณีการยึดของกลางสารเคมีกว่า 400 กระสอบ ที่ก่อนหน้าผลการตรวจด้วยน้ำยาทางวิทยาศาสตร์รอบแรกพบเป็นสีม่วงตรงกับสารเคตามีน แต่ภายหลังตรวจด้วยน้ำยาอีกครั้งกลับไม่พบเคตามีนแต่เป็นสารเคมีไตรโซเดียมฟอสเฟต
นายสมศักดิ์ ยอมรับว่า เกิดจากความผิดพลาดทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ จึงทำให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยพบไตรโซเดียมฟอสเฟตที่มีจำนวนมากขนาดนี้ เมื่อตรวจพบเป็นสารสีม่วงมีความใกล้เคียงกับเคตามีน จึงสรุปได้เบื้องต้นว่าเป็นเคตามีน ประกอบกับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ข้อมูลที่ยืนยันจากไต้หวันว่าของกลางที่พบเป็นกลุ่มเดียวกับที่ไต้หวันตรวจยึดของกลางเป็นเคตามีนได้ 300 กิโลกรัม และในวันตรวจพิสูจน์ครั้งแรกผลการตรวจมี 2 หน่วยงานร่วมตรวจ คือ เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ตรวจสารเสพติดของกระทรวง และเจ้าพน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ผลการตรวจปรากฎว่าพบสีม่วงเหมือนกันบ่งชี้ว่าเป็นสารเสพติด จึงด่วนสรุปแถลงไป
ขณะนี้ผลการตรวจของกลางต้องสงสัยทั้งหมดยังไม่พบสารเคตามีน ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 406 กระสอบ ที่อยู่ระหว่างการตรวจหาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งวันนี้กระทรวงยุติธรรม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 หน่วย ประกอบตัว สำนักงาน ป.ป.ส. พิสูจน์หลักฐาน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบวิเคราะห์ว่าพบสารชนิดใด โดยให้รายงานผลกลับมาในสัปดาห์นี้ ขณะที่ของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ยืนยันว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนย้ายไปไหน
นอกจากนี้ ทางกระทรวงได้ประสานงานกับหน่วยงานหลายแห่งและองค์กรปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐฯ จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการถึงเรื่องนี้ เพื่อปรับแนวทางการตรวจสอบครั้งใหม่ให้ชัดเจน
นายสมศักดิ์ ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งใครแต่เป็นผลกระทบกับกระทรวงเพราะเป็นความผิดพลาดที่ต้องยอมรับ การสร้างความสับสนและเชื่อมโยงกับกลุ่มคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงต้องตั้งคณะทำงานในการตรวจพิสูจน์ขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อพิจารณาดำเนินคดี
ป.ป.ส.ตรวจพิสูจน์ซ้ำสารเคมีต้องสงสัย
ขณะที่วันนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 50 นาย นักวิทยาศาสตร์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 10 คน และนักวิทยาศาสตร์จากสำนักงาน ป.ป.ส. อีก 5 คน เข้าตรวจพิสูจน์สารเคมีต้องสงสัย น้ำหนักรวมกว่า 11 ตันอีกครั้ง ที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 จ.ปทุมธานี
กระบวนการตรวจพิสูจน์สารเคมีต้องสงสัยในวันนี้จะยังไม่ทราบผลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากจะต้องมีการนำสารเคมีเข้าตรวจสอบโดยละเอียดในห้องแล็บ ซึ่งเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน จึงจะทราบผลของสารเคมีอย่างเป็นทางการว่าในจำนวนสารเคมีต้องสงสัยน้ำหนักกว่า 11 ตัน มีสารชนิดใดเจือปนกันอยู่บ้าง
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า การตรวจวันนี้จะต้องตอบข้อสงสัยสังคมได้แต่ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานเพราะอาจต้องรอผลอย่างเป็นทางการอย่างน้อย 3 วัน
สำหรับการตรวจพิสูจน์สารเคมีต้องสงสัยในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจยืนยันสารเคมีอย่างเป็นทางการ ส่วนการตรวจก่อนหน้านี้เป็นการสุ่มตรวจบางกระสอบ โดยการเจาะตักสารเคมีที่มีลักษณะเกล็ดขาวใส ในกระสอบตรวจกับชุดน้ำยาตรวจสารเสพติดประเภทเคตามีน ซึ่งปรากฏว่าผลออกมาเป็นสีม่วงทำให้น่าเชื่อว่าเป็นยาเสพติดเคตามีน ในขณะเดียวกันมีบางกระสอบผลตรวจปรากฏว่าเป็นโซเดียมฟอสเฟต จึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในผลการตรวจสอบของกลางทั้ง 11 ตัน ในวันนี้ ป.ป.ส. จึงต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ส.ตรวจสอบสารเคมีของกลางอีกครั้ง คาด 2-3 วัน รู้ผล
"อัจฉริยะ" แจ้งความเอาผิด รมว.ยธ. -เลขา ป.ป.ส. ปมยาเค 11 ตัน
ของกลาง 11.5 ตัน บางส่วนไม่ใช่ยาเค เป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต
ป.ป.ส.ยึด "ยาเค" ครั้งใหญ่ที่สุดในไทยกว่า 11.5 ตัน