วันนี้ (28 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. วันที่ 2 ธ.ค.นี้ เตรียมพิจารณารายละเอียดโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 หลังได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาขยายขอบเขตโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะให้ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ แต่ไม่สามารถให้สิทธิ์ทุกคนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากข้อจำกัดของงบประมาณ เบื้องต้นจะขยายเวลามาตรการออกไปคราวละ 3 เดือน
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เตือนผู้ลงทะเบียนรอบเก็บตกครั้งที่ 3 ให้เร่งยืนยันตัว ก่อนถูกตัดสิทธิ์ จากปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้ว 9,400,000 คน มีร้านค้าในโครงการกว่า 850,000 ร้านค้า คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสมกว่า 28,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ยังคงติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งได้ดำเนินการระงับสิทธิการใช้แอปพลิเคชัน"ถุงเงิน" และระงับการจ่ายเงิน ก่อนนำส่งหลักฐานการกระทำความผิดให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จึงขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนที่ผิดเงื่อนไข เพราะอาจตกเป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด ซึ่งจะมีโทษตามกฎหมาย
พ่อค้า-แม่ค้าพอใจ "คนละครึ่ง" ช่วยเพิ่มยอดขาย
กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็น เรื่อง “พ่อค้าแม่ค้าว่าไง...การขายในโครงการคนละครึ่ง” โดยเก็บข้อมูลจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า ร้านค้าที่ตอบแบบสอบถามมากที่สุดคือ ร้านอาหารทั่วไป ร้อยละ 44.3 รองลงมาคือร้านสะดวกซื้อ ร้อยละ 10.0 และร้านขายเครื่องดื่มและร้านขายเสื้อผ้า ร้อยละ 9.7
เมื่อถามว่า โครงการคนละครึ่ง ช่วยทำให้ยอดขายเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 88.3 เห็นว่าช่วยทำให้ขายได้เพิ่มขึ้น (โดยในภาพรวมยอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 30.2) ส่วนร้อยละ 11.2 เห็นว่าขายได้เท่าเดิม และร้อยละ 0.5 เห็นว่าขายได้ลดลง (โดยในภาพรวมยอดขายลดลงเฉลี่ยร้อยละ 7.1)
ส่วนความเห็นต่อโครงการคนละครึ่งมีผลอย่างไรบ้าง นอกเหนือจากการกระตุ้นยอดขาย ส่วนใหญ่ร้อยละ 68.0 เห็นว่าทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น รองลงมาร้อยละ 61.2 เห็นว่าทำให้สะดวก รวดเร็วเวลาจ่ายเงิน และร้อยละ 57.3 เห็นว่าทำให้ใช้แอปพลิเคชันโอน -ถอนเงินเป็น
และถามความเห็นต่อภาพรวมโครงการคนละครึ่ง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศได้มากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.5 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ส่วนร้อยละ 35.8 เห็นว่าช่วยได้ระดับปานกลาง ขณะที่มีเพียงร้อยละ 0.7 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด